วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกEXCLUSIVE3 ปี 5 เดือน 20 วัน!บทสรุปเด็ก 3 ขวบตายปริศนา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

3 ปี 5 เดือน 20 วัน!บทสรุปเด็ก 3 ขวบตายปริศนา

ใกล้ได้บทสรุปเต็มที สำหรับ “คดีน้องชมพู่” หายตัวปริศนา ไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

คดีนี้ มี 2 ตัวละครสำคัญ คือ ลุงพล และ ป๋าแต๋น ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ถึงวันนี้ (30 ตุลาคม) นับเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน 20 วัน ที่ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ จากไป และศาลได้นัดเลื่อนอ่านคำพิพากษาจากวันนี้ 31 ตุลาคม เป็นช่วงปลายเดือนธันวาคม หรือราวๆ 1 เดือนถัดไป

คดีนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เราลองไปไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกัน

1.สื่อกับการนำเสนอคดีฆาตกรรมในเชิงเรียลลิตี้

คดีที่เกิดขึ้น มีนักวิชาการ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสื่อที่ลงพื้นที่เจาะลึก เรียกว่าสัมภาษณ์คนทั้งหมู่บ้าน จนเกิดความเห็นแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย และมีการตั้งคำถามกันมาก ถึงความเหมาะสมในการนำเสนอคดีฆาตกรรม

ทั้งกรณีที่ผู้เสียหายเป็นเด็ก การนำเสนอความเป็นอยู่ของผู้ต้องหาในเชิงเรียลลิตี้ เกาะติดชีวิตทุกแง่ทุกมุม มีความเหมาะสมหรือไม่

2.ยกย่องผู้ต้องหา จนกลายเป็นดารา

ผลกระทบที่เกิดขึ้นในคดีน้องชมพู่ ยังเกิดขึ้นกับครอบครัวของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และป๋าแต๋น ภรรยา ที่มีการนำเสนอเรื่องราวของลุงพล ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ในเชิงยกย่องจนกลายเป็นดารา มีแฟนคลับ เคยขึ้นถึงจุดสูงใน ในการเป็นแขกรับเชิญ ร้องเพลงเต่างอย ของจินตหรา พูนลาภ และถูกเชิญตัวไปเดินแบบ เข้าวงการบันเทิง

ลุงพล / @JINTARACHANELOfficial

3.อินฟลูแอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ รุมทึ้งคดีชมพู่

คดีที่เกิดขึ้น มีผู้ออกมาให้ความเห็นมากมาย ทั้งอินฟลูเอ็นเซอร์หน้าจอ ที่มาร่วมผสมโรง ไม่ว่าจะเป็นหมอผี ทนายความ ต่างออกมาให้ความเห็นด้านคดีอย่างหลากหลาย จนสุดท้าย ทั้งหมดได้แตกแยกจากกันไป เพราะความขัดแย้งบางอย่างกับลุงพล

4.ผลกระทบกับครอบครัวเหยื่อ และรูปคดี

จากเหตุผล 3 ข้อข้างต้น ย่อมส่งผลกระทบถึงครอบครัวผู้สูญเสีย คือ ครอบครัวเด็ก 3 ขวบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ที่ต้องรับข้อมูลข่าวสาร จากฝั่งผู้ต้องหาในทุกๆ วัน ตามสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ และยังมีผู้นำพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีมาเปิดเผย จนอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีในช่วงนั้นได้

เปิดชีวิต “ลุงพล-ป้าแต๋น” จากผู้ต้องหาสู่ธุรกิจ 100 ล้าน

จากเหตุผลข้างต้นที่ได้เกริ่นไว้ ถึงผลกระทบในคดีน้องชมพู่ที่เกิดขึ้น ในช่วงนั้น แทบไม่มีใครสนใจข้อเท็จจริง ว่าใครเป็นฆาตกร หรือมีส่วนร่วมทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตไปแล้ว แต่มีการใส่อรรถรสในการนำเสนอสิ่งแวดล้อมในคดี จนเกิดฮีโร่ หรือเหยื่อ หรือผู้ถูกกล่าวหา รายอื่นๆ ตามมามากมาย

สุดท้ายแล้ว นอกเหนือจากลุงพล และป้าแต๋น ที่มีแฟนคลับติดตามหลักหลายแสนคน จนไปเปิดช่องยูทูบ เกาะติดชีวิตลุงพล แค่คลิปทานข้าวกับไข่ดาว มีคนดูหลายแสนคน สร้างรายได้จากโซเชียลมีเดียอย่างเป็นกอบเป็นกำ (คาดว่าน่าจะสูง 4-5 ล้านบาทต่อเดือน)

ลุงพล / FB:ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่ 

ลุงพลและป้าแต๋นยังได้เปิด บริษัท มนต์โอม โฮมทรัพย์ จำกัด ที่มุกดาหาร ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 หรือ 1 ปีหลังการเสียชีวิตของเด็กหญิง 3 ขวบ

บริษัทของ 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว สร้างรายได้รวมในปี 2565 กว่า 10 ล้านบาท มีทรัพย์สินรวมกว่า 2 ล้านบาท และมูลค่าของการจำหน่ายสินค้าอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี 2566 รวมทั้งรายได้ช่องทางออนไลน์ทางยูทูป รวมๆ แล้วอาจถึงหลัก 100 ล้านบาท

ดังนั้น นับจากนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือนเศษ ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดอ่านคำพิพากษา 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาว่า ลุงพลและป้าแต๋น เป็นผู้บริสุทธิ์ หรือผู้กระทำผิดในคดีก็ตาม ก็ยังมีผู้ตามสนับสนุนตามความเชื่อต่อไป

และในขณะเดียวกัน คงไม่มีสิ่งใด ที่จะเยียวยาครอบครัวของเด็ก 3 ขวบ ที่ยังรอคอยความยุติธรรม ว่าใครเป็นผู้พรากชีวิตลูกหลานของพวกเขาไปได้ เช่นเดียวกัน

………………………………

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img