วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯ ไทย-มาเลเซียต่อยอดความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดน-ขับเคลื่อนคณะทำงาน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯ ไทย-มาเลเซียต่อยอดความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดน-ขับเคลื่อนคณะทำงาน

‘นายกฯไทย-นายกฯมาเลเซีย’ ร่วมหารือทวิภาคีเต็มคณะ สำนักงานด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) อ.สะเดา จ.สงขลา เห็นพ้องตั้งคณะทำงานร่วม 4 ด้าน ต่อยอดความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดน ตั้งเป้าก.พ.67  หยุดลักลอบค้าสัตว์ป่าเถื่อนข้ามชายแดน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พ.ย.ที่ด้านหน้าอาคารสำนักงานด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้การต้อนรับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนไทยเพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) ต่อยอดผลการเยือนมาเลเซียของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2566 โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดนไทย-มาเลเซีย

หลังจากนั้น เวลา 11.20 น. ณ ห้องพระนิกรบดี อาคารสำนักงานด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีเต็มคณะร่วมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยมีรัฐมนตรีฝ่ายไทยประกอบด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.มนาคม สำหรับรัฐมนตรีฝ่ายมาเลเซีย ประกอบด้วย Dato’ Sri Alexander Nanta Linggi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการ Dato’ Sri Tiong King Sing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม สาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

 โดยนายกฯ กล่าวชื่นชมการหารือว่ามีประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือ แต่ยังมีประเด็นที่ยังต้องขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางการค้า ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ได้มาหารือกันวันนี้ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนและต่อยอดความร่วมมือจากที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดน สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำไทยและมาเลเซียที่ต่างเห็นถึงความสำคัญในการผลักดันความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดนให้ก้าวหน้า และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายแดนของทั้งสองประเทศ

สำหรับการเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องให้จัดตั้งคณะทำงาน (Task force) ซึ่งไทยได้จัดตั้งคณะทำงานฯ 4 ด้าน คือ 1.การค้าและการค้าชายแดน 2.การท่องเที่ยว 3.การเกษตร และ 4.ความมั่นคง โดยต่างหวังว่าคณะทำงานร่วมไทยและมาเลเซียจะสามารถขับเคลื่อนการดำเนินการร่วมกันได้เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ ด้านการค้า ผู้นำทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะผลักดันการค้าและการลงทุนให้ได้ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคงเผชิญกับความท้าทายในด้านการค้าระหว่างกัน ไทยและมาเลเซียควรร่วมมือกันให้ใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้า และเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เป็นไปตามเป้าหมาย Joint Action Plan

อย่างนี้ นายกฯเสนอแนวทางเพิ่มพูนการค้าและการลงทุน  โดยขอให้มาเลเซียเป็นเจ้าภาพประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ในระดับรัฐมนตรีพาณิชย์ เพื่อเป็นเวทีหารือถึงความคืบหน้าและแก้ไขปัญหาที่ยังค้างค้างระหว่างกัน  นอกจากนี้ ขอให้มาเลเซียช่วยเร่งรัดบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย โดยประเด็นเรื่องการข้ามพรมแดน เช่น ด่านสะเดา ทางมาเลเซียจะเร่งดำเนินการเพื่อให้เปิดใช้งานเพราะมีหอการค้า ที่อยู่ชายแดนให้เร่งติดตามและขอให้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหอการค้าในระดับท้องถิ่นของทั้งไทยและมาเลเซีย

ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาไทยมากเป็นอันดับหนึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีการยกเว้นการยื่น แบบฟอร์ม ตม.6 ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 ถึง 31 เม.ย. 2567 ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการในการเข้า-ออกประเทศไทยของนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นไปด้วยความสะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ดี ปัญหาที่นักท่องเที่ยวไทยพบเจอ คือ ระบบคมนาคมขนส่งและการเดินทางในฝั่งมาเลเซียไม่เพียงพอ ไทยจึงหวังว่า บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย จะสามารถเสร็จสมบูรณ์ได้ในเวลาอันใกล้ แต่ไทยยังมีการเข้าถึงที่จำกัด จึงขอให้ทางมาเลเซียช่วยพิจารณาอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งมาเลเซียยินดีรับนักท่องเที่ยวไทยอยู่แล้ว จะให้นักท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ในการท่องเที่ยวเดินทาง เพื่อประโยชน์ร่วมกัน

ส่วนด้านการเกษตร รัฐบาลไทยมีแผนจัดตั้ง “กรมฮาลาล” ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ด้านความมั่นคงชายแดน ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้าสัตว์ป่าเถื่อนข้ามชายแดนไทยและมาเลเซีย  ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือต่อสู้กับการลักลอบค้าสัตว์ป่า ดำเนินการอย่างเข้มข้น หยุดการลักลอบให้ได้ภายในเดือนก.พ. 2567

อย่างไรก็ตาม นายกฯไทยและมาเลเซียหวังว่า การหารือระหว่างกันในวันนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาชายแดนของทั้งสองประเทศ  โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซียได้เดินทางไปสำรวจจุดเชื่อมถนนเพื่อเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ โรงแรม Vista ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางไปสำรวจด่านบูกิตกายูฮิตัมในฝั่งของมาเลเซียในช่วงบ่ายต่อไป.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img