ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 10.49 จุด หลังตลาดฟิวเจอร์สผันผวน-เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนกดดันเม็ดเงินต่างประเทศชะลอเข้า ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางมาก มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้รีบาวด์ – มีโอกาสทำ Window Dressing ให้กรอบแนวต้าน 1,382 จุด แนวรับที่ 1,365 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,370.34 จุด ลดลง 10.49 จุด (-0.76%) มูลค่าซื้อขาย 33,679.87 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงท้ายปรับตัวลงแรง ส่วนหนึ่งมาจากวันนี้ตลาดฟิวเจอร์สผันผวน โดย SET50 ซีรี่ย์ H หมดอายุและมีการ Roll over ไปซีรี่ย์ M ประกอบกับเงินบาทวันนี้อ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 6 เดือนมาที่ 36.49 บาท เป็นแรงกดดันเม็ดเงินต่างประเทศชะลอเข้า ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางมาก
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ น่าจะมีลุ้นเด้งขึ้น และมีโอกาสทำ Window Dressing วันสุดท้ายของไตรมาส รวมทั้งนักลงทุนยังรอตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) หากออกมาไม่สูงมากเกินไปก็จะเป็นการยืนยันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ให้กรอบแนวต้าน 1,382 จุด แนวรับที่ 1,365 จุด
ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนเม.ย.น่าจะดีขึ้น ตอบรับงบประมาณรายจ่ายปี 2567 เริ่มเบิกจ่ายได้ และในวันที่ 10 เม.ย.มีการประชุม 2 เรื่องสำคัญ คือ การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาอัตราดอกเบี้ย และประชุมคณะกรรมการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รอความชัดเจนของโครงการทั้งแหล่งเงินและเงื่อนไข
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,052.95 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 876.13 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 856.96 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 837.56 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 785.31 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
