วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกHighlightคมนาคมจ่อชง“ครม.”ไฟเขียวแผนก่อสร้างไฮสปีดเทรนระยะที่ 2
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

คมนาคมจ่อชง“ครม.”ไฟเขียวแผนก่อสร้างไฮสปีดเทรนระยะที่ 2

คมนาคมจ่อชง ครม.อนุมัติแผนก่อสร้างไฮสปีดเทรนระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ภายในปีนี้ คาดเปิดบริการปี 72

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการไฮสปีดเทรน ภายใต้ความร่วมมือไทย-จีน ว่า การพัฒนาระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา คืบหน้าราว 90% คาดว่าเปิดให้บริการปี 2569 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ขณะนี้ออกแบบโครงการแล้วเสร็จ คาดว่าจะเสนอขออนุมัติโครงการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในปีนี้ โดยภาพรวมโครงการไฮสปีดนี้จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2572 เช่นเดียวกับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย คาดว่าจะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติภายในปีนี้

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวถึงแผนเชื่อมโยงระบบรางระหว่างไทย-ลาว-จีน ว่า ปัจจุบันระบบรางระหว่างไทยและลาวสามารถเชื่อมต่อกันในด้านของการขนส่งสินค้าอยู่แล้ว โดยสามารถขนส่งสินค้าผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ผ่านรางขนาดความกว้าง 1 เมตร หรือ Meter Gauge (มีเตอร์เกจ) โดยมีสถานีปลายทางอยู่ที่สถานีท่านาแล้ง สปป.ลาว

แต่ปัจจุบันฝ่ายไทยและลาวกำลังมีการเจรจาเพื่อความร่วมมือในการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารบนมาตรฐานรางขนาด 1.435 เมตร หรือ Standard Gauge (สแตนดาร์ดเกจ) ซึ่งเป็นขนาดรางมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากที่สุด รวมทั้งยังเป็นขนาดรางมาตรฐานของรถไฟลาว-จีน และไฮสปีดไทย-จีนที่ไทยอยู่ระหว่างพัฒนาด้วย จึงเป็นอีกนิมิตหมายของการเชื่อมโยงภาคขนส่งและสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวจากการเดินรถไฟขนส่งผู้โดยสารที่กำลังจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของการเชื่อมต่อรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน คือการพัฒนาสะพานเชื่อมไทย-ลาวแห่งใหม่ เนื่องจากสะพานแห่งนี้จะประกอบด้วยรางรถไฟขนาด 1.435 เมตร จำนวน 2 ราง รองรับไฮสปีดเทรนจากไทย และรางขนาด 1 เมตร จำนวน 2 ราง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟทางคู่ ซึ่งปัจจุบันโครงการก่อสร้างสะพาน ฝ่ายไทยโดยกรมทางหลวง (ทล.) อยู่ระหว่างเตรียมศึกษาและออกแบบ คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในกลางปี 2567 แล้วเสร็จกลางปี 2568

“สะพานแห่งใหม่นี้จะอยู่ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ประมาณ 30 เมตร เป็นสะพานที่มีความสำคัญในการทำให้ระบบรางของไทยและลาวสามารถเชื่อมต่อกันโดยสมบูรณ์ โครงการไฮสปีดเทรนจะเชื่อมโยง 3 ประเทศ จากสถานีหนองคายฝั่งไทย เชื่อมผ่านไปทางสถานีขนส่งสินค้าท่านาแล้ง สถานีขนส่งสินค้าเวียงจันทน์ใต้ และเชื่อมต่อกับรถไฟลาว-จีน ขนส่งผู้โดยสารที่สถานีนครหลวงเวียงจันทน์ และไปสิ้นสุดที่สถานีคุนหมิงทางตอนใต้ของจีน”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2572 เมื่อไฮสปีดเทรนของไทยแล้วเสร็จ จะเห็นภาพชัดเจนต่อภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน สร้างโอกาสในการเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว เพราะความสะดวกสบายจากการขนส่งผู้โดยสารด้วยระบบรางเชื่อมต่อระหว่างประเทศนั้น จะทำให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารที่ใช้บริการไฮสปีดเทรนจากไทย อาจจะสามารถนั่งเชื่อมต่อไปลาวและจีนได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-ลาว-จีน เพื่อให้ขบวนรถไฟของแต่ละประเทศสามารถให้บริการระหว่างประเทศได้

ทั้งนี้ การเจรจาทวิภาคีระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีการหยิบยกมาหารือในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อการพัฒนาไฮสปีดเทรนของไทยแล้วเสร็จ เพื่อทำให้รถไฟของแต่ละประเทศสนับสนุนซึ่งกันและกัน ขณะที่เรื่องขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ปัจจุบันก็พบว่ามีโมเดลที่เห็นอย่างกลุ่ม Schengen (เชงเก้น) ผู้โดยสารที่มีวีซ่าเชงเก้นสามารถเดินทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศได้ในกลุ่มประเทศเชงเก้น หรืออาจจะมีการตรวจวีซ่าผู้โดยสารบนขบวนรถก็สามารถทำได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img