หอการค้าฯ เตรียมศึกษาข้อดี-ข้อเสีย กรณีให้ต่างชาติถือครองที่ดินเพื่อจูงใจเข้ามาลงทุน หลังเกิดเสียงวิพากวิจารณ์อย่างหนัก คาดรู้ผลสิ้นปีนี้
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะทำงานจัดทำกรอบการศึกษาเรื่องการถือครองที่ดินของต่างชาติ เพื่อจูงใจให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย หลังเกิดเสียงคัดค้านกรณีที่จะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดให้คนต่างชาติ 4 กลุ่ม สามารถถือครองที่ดินได้จำนวน 1 ไร่ โดยหลังจากจัดทำกรอบการศึกษาเสร็จแล้ว จะมอบหมายให้หน่วยงานด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการศึกษาได้ภายในสิ้นปีนี้
“คณะทำงานจะไปกำหนดกรอบการศึกษา โดยให้ไปรวบรวมข้อมูลในเรื่องที่มีลักษณะเดียวกันของประเทศต่างๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบให้เห็นข้อดี-ข้อเสีย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ คิดว่าเรื่องนี้ต้องเปิดกว้าง ยังไม่ควรรีบตัดสินใจ”
นายสนั่น กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล เชื่อว่าเป็นความตั้งใจดีที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่าภาวะเศรษฐกิจในปีนี้จะชะลอตัวลง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งเรื่องการลงทุนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี
“คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของแผ่นดิน ควรที่จะต้องรับรู้ว่ามีผลกระทบอย่างไร แต่จะไปบอกว่าขายชาติ คงไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะผู้ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ล้วนต้องการทำเพื่อประเทศชาติ”
ที่ผ่านมา หอการค้าไทยจะให้มีการศึกษาข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เช่น กรณีที่มีนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนน้อยผิดปกติ โดยเข้ามาลงทุนเป็นอันดับ 6 ซึ่งได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะนำผลการศึกษาไปเปิดเผยในงานสัมมนา Thailand-China Investment Forum วันที่ 3 พ.ย.นี้
