“หอการค้าไทย” เผยเปิดเทอมปีนี้เงินใช้จ่ายสะพัดกว่า 57,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% สูงสุดรอบ 14 ปี โดยกลับมาเท่าช่วงก่อนโควิดแล้ว ขณะที่ค่าอุปกรณ์การเรียน-ชุดนักเรียนราคาแพงขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงการประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมพบว่า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเล่าเรียนบุตรในปีนี้เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของค่าบำรุงการศึกษา ค่าอุปกรณ์การเรียน แบบเรียนและชุดนักเรียนแพงขึ้น โดยเฉพาะกับนักเรียนที่เปลี่ยนโรงเรียนใหม่
สำหรับค่าใช้จ่ายโดยรวมในช่วงเปิดเทอมปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 19,507 บาท ส่งผลทำให้เงินสะพัดในช่วงเปิดเทอมปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.3% คิดเป็นมูลค่ากว่า 57,885 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 14 ปี โดยหากเทียบกับปี 62 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 18,299.94 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 6.6%
“จำนวนวงเงินที่ใช้จ่ายกว่า 50,000 ล้านบาทนั้นเป็นมูลค่าเงินที่เทียบเท่ากับในช่วงเปิดเทอมก่อนโควิด 19 แล้ว สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว แต่ยังคงฟื้นตัวแบบเปราะบาง และยังคงอยู่ในรูปเคเชฟ (K-Shaped) เนื่องจากบางส่วนยังคงต้องระมัดระวังการใช้จ่ายจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น”นายธนวรรธน์ กล่าว
นอกจากนี้จากผลการสำรวจของผู้ปกครองมองว่า การเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ส่งผลต่อการทำความเข้าใจของเด็กเล็ก ทำให้การศึกษามีปัญหา หลักสูตรไม่เปลี่ยนให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก จำนวนครู อาจารย์มีน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการ และควรปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง ของโลกในยุคปัจจุบัน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชนให้ทัดเทียมกันด้วย