วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกHighlight“แบงก์ชาติ”ย้ำจุดยืนแจกดิจิทัลวอลเล็ต ควรเน้นช่วยเหลือเฉพาะ“กลุ่มเปราะบาง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“แบงก์ชาติ”ย้ำจุดยืนแจกดิจิทัลวอลเล็ต ควรเน้นช่วยเหลือเฉพาะ“กลุ่มเปราะบาง”

“แบงก์ชาติ” ย้ำจุดยืน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ให้กลุ่มเปราะบาง หากแจกกลุ่มรายได้ฟื้นแล้ว Value for Money อาจไม่มากเท่าที่ควรรอดูรายละเอียด 10 เม.ย.นี้

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จุดยืนของ ธปท. ต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยธปท.ยังมองเห็นความจำเป็นในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ โดยหากพิจารณาในรายละเอียดของการบริโภคเอกชน จะพบว่า มีหลายกลุ่มที่ปัจจุบันรายได้มากกว่าในช่วงก่อนโควิดไปแล้วและมีโอกาสเพิ่มต่อเนื่อง หากได้รับสิทธิในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปด้วย Value for Money อาจจะไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งผลการกระตุ้นเศรษฐกิจย่อมมากน้อย แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม แต่กลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นที่จะได้รับการดูแล

“ถ้าเราแตก consumption ออกมา ก็จะมีกลุ่มที่จริงๆ รายได้อาจจะเกินกว่าช่วงพรีโควิดไปแล้ว และอาจยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากกลุ่มนี้ได้รับไป ประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่จะได้ ถ้าดู Value for Money ก็อาจจะไม่ได้เยอะขนาดนั้น เพราะฉะนั้นต้องดูว่าผลที่จะเกิดขึ้นในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะไม่เท่ากันทั้งหมด แต่มีกลุ่มที่มีความจำเป็น และควรจะได้รับการดูแล คือกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตามรายละเอียดต่างๆ คงต้องรอวันที่ 10 เม.ย.นี้ “

สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือน กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยรวมขยายตัวในระดับที่ยังต่ำ จากการส่งออกยังคงปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า (ไม่รวมทองคำ) ร้อยละ 2.9 % จากเดือนก่อนหน้า

โดยการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำปรับลดลง เนื่องจากหลายกลุ่มสินค้ายังถูกกดดันจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า สินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง และปัจจัยเชิงโครงสร้างการผลิตของไทย โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามการส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์สื่อสารไปสหรัฐฯ

รวมถึงการส่งออกแผงวงจรรวมและฮาร์ดดิสไดรฟ์ไปจีนและฮ่องกง ยานยนต์ตามการส่งรถกระบะไปออสเตรเลียเป็นสำคัญ และปิโตรเลียมจากการส่งออกไปอาเซียน มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามการนำเข้าสินค้าทุน

การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางเสถียรภาพเศรษฐกิจ ตาม พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า และรายจ่ายประจำที่หดตัวจากผลของฐานสูงในปีก่อนตามการเลื่อนเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านการศึกษาเป็นสำคัญ”

ขณะที่การบริการยังขยายตัวต่อเนื่องตามรายรับและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มชื้น ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาปรับตัวดีขึ้น 1.2% โดยหลักมาจากหมวดปิโตรเลียมกลับมาเร่งผลิต และหมวดเคมีภัณฑ์ ด้านการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่ร่วมเงินโอนหดตัวจากปีก่อนหน้า ทั้งรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางที่ยังหดตัวสูงรวมถึงการลงทุนรัฐวิสาหกิจ

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 0.77 % ถือว่าติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.11% จากหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ตามราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันติบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงที่ 0.43% ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 0.52% ตามราคาอาหารในหมวดพื้นฐาน จากผลของฐานสูงในปีก่อน สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยอ่อนค่าลงต่อเนื่องในเดือน ก.พ.2567 ขณะที่เดือน มี.ค.67 เคลื่อนไหวผันผวน

ส่วนแนวโน้มกิจกรมทางเศรษฐกิจในเดือนมีนาคม 2567 ระยะถัดไป คาดว่ายังได้รับแรงส่งจากภาคท่องเที่ยว แต่ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรม และระยะต่อไป ต้องติดตาม 1.การฟื้นตัวของการค้าโลก โดยเฉพาะเกี่ยวกับภาคการผลิต 2.ผลกระทบจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ 3. การใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img