“ชลน่าน”เซ็นร่างก.ม.กัญชาเข้าครม. ย้ำเพื่อการแพทย์ห้ามสันทนาการ เผย ไม่กำหนดคืนส่วนใดเป็นยาเสพติด แต่ต้องใช้ให้ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.67 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามเพื่อส่งร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา พ.ศ. … เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของ ครม.แล้ว ซึ่งหาก ครม.พิจารณาเห็นชอบรับหลักการ ก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาต่อไป โดยหลักการของร่างนี้ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการเงินด้วยนั้น คือ จะเป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์และสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ด้านมิติสุขภาพด้วย ส่วนที่เป็นปัญหากรณีใช้ผิดประเภท ก็มีมาตรการที่จะควบคุมอยู่ในตัวบทกฎหมาย เช่น คำว่าสันทนาการเราเขียนไว้ชัดในตัวกฎหมาย
“พูดง่ายๆ คือ อะไรที่เกี่ยวกับการแพทย์และสุขภาพจะมีกฎหมายเข้ามารองรับ เป็นการสนับสนุนส่งเสริม ส่วนการใช้ผิดประเภทก็มีการควบคุม ซึ่งตรงนี้อะไรที่จะต้องนำไปสู่การปฏิบัติก็จะมีกฎหมายลำดับรอง อาจจะออกมาเป็นกฎกระทรวงที่ต้องผ่าน ครม. เห็นชอบก่อน หรือประกาศกระทรวง ที่ต้องผ่านคณะกรรมการที่เห็นชอบ” นพ.ชลน่านกล่าว
ส่วนก่อนหน้านี้ที่กรมการแพทย์แผนไทยมีการออกประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ต้องมีการปรับแก้ด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่คนละกฎหมาย ก็ต้องไปดูว่าเชื่อมโยงอย่างไร กฎหมายขัดกันไหม ถ้ากฎหมายใหม่ที่ออกมากับกฎหมายเก่าขัดกัน ก็ต้องปรับให้สอดรับกัน
ถามต่อว่า ร่างที่จะเสนอนี้ยังไม่มีแนวทางที่จะให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในชั้นนี้ยังไม่มี ยังยึดตามแนวเดิม ประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ออกมา ตัวที่จะเป็นสารเสพติดคือ สารสกัดกัญชาที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% ของน้ำหนัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีคนอ้างว่าการสูบในครัวเรือน เป็นการใช้เพื่อสุขภาพ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะใช้ความเห็นส่วนบุคคลไม่ได้ ต้องเป็นความเห็นทางการแพทย์ ก็ต้องไปพิจารณาตามข้อเท็จจริง ตามกระบวนการวิธีการ และเอาหลักวิชาการทางการแพทย์ไปจับ มิเช่นนั้นก็อ้างกันหมด
เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา หากออกมาจะกระทบต่อร้านขายกัญชา Cannabis Shop ที่มีอยู่เดิม รวมถึงกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องสำอางที่ใช้กัญชาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ร้านขายกัญชาที่จดทะเบียนถูกต้องเป็นสถานประกอบการขณะนี้ ยังไม่มีนโยบายหรือตัวบทกฎหมายที่จะไปยกเลิกเขา ถ้ากฎหมายใหม่ออกมา ถ้ากัญชาที่ไม่ใช่สารเสพติดก็ต้องให้ถูกประเภท ไม่ใช่ผิดประเภท เพราะจะมีการควบคุมตรงนั้นอยู่ ส่วนกลุ่มธุรกิจทำผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางจากกัญชา ดูจากแนวทางการออกกฎหมายแล้วไม่น่าได้รับผลกระทบ แต่จะต้องได้รับการอนุญาต เพราะเมื่อใช้ว่า “ควบคุม” ต้องได้รับ “อนุญาต”
ถามอีกว่า ต่อไปการซื้อกัญชาต้องมีใบรับรองจากแพทย์หรือไม่ หรือการอนุญาตต้องไปเพิ่มติดกล้องวงจรปิด รายงานผลการปลูกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตรงนี้เป็นรายละเอียด ในพ.ร.บ.ไม่เขียนลึกขนาดนั้น อาจเขียนว่าโยงไปว่าหลักเกณฑ์วิธีการเฝ้าระวังควบคุมดูแลให้ไปกำหนดในกฎหมายลูก ว่าจะใช้มาตรการอย่างไร ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะมีอะไรบ้าง แต่หลักการคือจะมีมาตรการควบคุม เพราะต้น ราก ใบ ดอก กฎหมายปัจจุบันไม่เป็นยาเสพติด มีแต่สารสกัด THC ที่มีมากกว่า 0.2% เท่านั้น แต่ต้น ราก ใบ ดอก ก็มีสาร THC อยู่ ซึ่งไม่รู้ว่ามีเท่าไร อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 0.2% ก็ได้ ถ้านำไปใช้เราจะสันนิษฐานว่านำไปใช้ถูกหรือผิดประเภท เราจึงกำหนดประเภทที่ใช้ วิธีการที่ใช้ สถานที่ที่ใช้ คนที่ใช้ ตรงนี้เรียกว่าควบคุม ก็ต้องไปดูรายละเอียดตรงนั้น ส่วนร่าง พ.ร.บ.ใหม่นี้จะเอื้อให้ตำรวจดำเนินการจับกุมคนใช้ผิดประเภทหรือไม่ นั้น แน่นอนต้องเขียนออกมา ถ้าใช้ผิดประเภทก็ต้องให้อำนาจตามกฎหมาย เช่น เข้าข่ายว่าสันทนาการก็ต้องมีบทบัญญัติกฎหมายรองรับที่เขาจะใช้อำนาจตามกฎหมายได้.
