วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกHighlight'รมว.ทส.'ลุยแก้ขยะพลาสติก 'ไทยต้องไม่ใช่ถังขยะของโลก'
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘รมว.ทส.’ลุยแก้ขยะพลาสติก ‘ไทยต้องไม่ใช่ถังขยะของโลก’

“รมว.ทส.” เดินหน้าแก้ปัญหาขยะพลาสติก ตั้งคณะทำงานฯควบคุมการนำเข้า พร้อมประสานกรมศุลฯยึดขยะที่มีผู้ลักลอบนำเข้า ประกาศลั่น! “ประเทศไทยต้องไม่ใช่ถังขยะของโลก”

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ (รมว.ทส.)​ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 3/2563 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยมี นายจตุพร​ บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) และ นางอัษฎาพร ไกรพานนท์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า มุ่งหวังให้การบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม การประชุมวันนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่องเร่งสำรวจปริมาณขยะพลาสติกภายในประเทศ ว่ามีความจำเป็นต้องนำขยะเข้ามาในแผ่นดินไทยหรือไม่ หากต้องนำเข้าก็ต้องอยู่ในปริมาณที่ควบคุมได้ และขยายผลไปสู่การห้ามนำเข้าขยะแบบ 100% คณะทำงานชุดนี้จะใช้เวลาสำรวจไม่เกิน 60 วัน เพื่อนำข้อมูลเข้าที่ประชุมดำเนินการต่อไป

“นอกจากนั้น ยังได้ให้กรมศุลกากร ศึกษากฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจยึดขยะที่มีผู้ลักลอบนำเข้า เพื่อเร่งแก้ไขกฎระเบียบนั้น ให้สามารถผลักดันขยะคืนสู่ประเทศต้นทางได้โดยเร็ว และจากนี้ไป การพัฒนาเศรษฐกิจจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งสองสิ่งนี่จะต้องพัฒนาควบคู่กัน โดยที่ประเทศไทยจะต้องไม่ใช่ถังขยะของโลก” รมว.ทส. กล่าวและว่า สิ่งที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มิใช่เพียงแค่ต้องการตรวจจับการลักลอบนำเขาขยะผิดกฎหมายเท่านั้น แต่เรามองภาพรวมไปถึงเรื่องสุขอนามัยของประชาชนเป็นสำคัญ

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ท้ายที่สุดปัญหาขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ คงไม่สามารถแก้ได้ด้วยใครเพียงคนใดคนหนึ่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยากเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนหันมาช่วยกันคัดแยกขยะตั้งแต่ที่บ้าน เพื่อให้การดำเนินการรีไซเคิลทำได้โดยง่าย และส่งผลให้ประเทศไทยไม่ต้องนำเข้าขยะอีกต่อไป นับเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img