“ไพศาล”ชี้อนาคต “บิ๊กตู่”ต้องฝ่า 2 ด่านสำคัญมิเช่นนั้น จะเป็นได้แค่รองนายกฯ แนะจับตาก่อนครบกำหนดเวลา ส.ส ย้ายพรรค หากยังไม่สามารถฝ่า 2 ด่านนี้ได้ ก็อาจจะมีการประกาศ “ผมพอแล้ว”
วันที่ 6 ธ.ค.65 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkol ระบุว่า…#ปฏิทินนับถอยหลังสู่สถานการณ์เลือกตั้ง!!!!
1.อันมังกรนั้นเมื่อยังไม่ถึงเวลาสำแดงฤทธิ์ ก็สามารถทำตัวให้เล็กอยู่ในเม็ดทรายและเปลือกหอยก็ได้
แต่เมื่อถึงคราวจะแสดงฤทธิ์ก็สามารถผาดโผนโจนทะยานขึ้นไปบนอากาศได้!!!
2.พรรคภูมิใจไทยอ่านการเมืองขาดแล้วว่ากระแสลมจะพัดไปทางไหน!!!
ล่าสุดนายอนุทินได้ประกาศความพร้อมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าหากมีเสียงข้างมากในสภา!!!
และได้ยืนยันว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทย มีส.ส.มากกว่ารวมไทยสร้างชาติ นายอนุทินก็จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคที่มีคะแนนเสียงน้อยกว่าก็เอาตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไป!!!!
หมายความว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ยอมรับเงื่อนไขที่จะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกอีก 2 ปี และให้นายอนุทิน ดำรงตำแหน่งนายกต่ออีก 2 ปี!!!!
แม้ลุงป้อมก็ไม่รับเงื่อนไขนี้เหมือนกัน!!!!
นั่นเพราะพลเอกประยุทธ์ไม่ได้มี 250 เสียง สว.อยู่ในมือเหมือนปี 2562 แล้ว ไปถามท่านสว.วันชัย สว.สายราชการ และสว.สายลุงจิ๋วดูสิ ว่าสว.สายลุงป้อมมีกี่คน!!!!
3.อนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงต้องฝ่าด่าน 2 ด่านสำคัญคือ
~รวมไทยสร้างชาติต้องได้ ส.ส.เกิน 5% คือ 25 คน ซึ่งด่านนี้ก็ยังจุกอกอยู่ในขณะนี้
~ ต้องมีส.ส. มากกว่าพรรคภูมิใจไทย
มิฉะนั้นพลเอกประยุทธ์ก็จะเป็นได้แค่รองนายกรัฐมนตรี!!!!
4.จับตากันให้ดี ก่อนครบกำหนดเวลา ส.ส ย้ายพรรค หากพลเอกประยุทธ์ยังไม่สามารถฝ่า 2 ด่านนี้ได้ ก็อาจจะมีการประกาศ “ผมพอแล้ว”
แต่บางทีทางเลือกก็จำกัด!!! เพราะถ้ามี ส.ส.ลาออกถึง 200 คน จะกดดันให้มีการยุบสภาและเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 66!!!
ดังนั้นอย่าปรามาสนักการเมืองมือเก๋าที่แย้มว่าจะมีการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 66 เป็นอันขาด