ประชุมรัฐสภาล่ม 2 วันติด! ถกร่างพ.ร.บ.ศึกษาฯไม่รอด หวิดวุ่นฝ่ายค้านโวย “พรเพชร” ดึงดันลงมติใหม่ หลังองค์ประชุมไม่ครบ
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม ได้พิจารณา ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. วาระสอง วันที่สอง พบว่ามีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานในการประชุมต้องสั่งปิดการประชุม แม้จะยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จทั้งฉบับ ตามที่วิปกำหนดไว้
ผู้สิ่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มดวลา 09.30 น. แต่กว่าจะรอครบองค์ประชุมล่าช้าเกือบหนึ่งชัวโมง จากนั้นได้พิจารณามาถึง มาตรา 8/1 ต้องลงมติ โดยพบว่ามีผู้มาแสดงตน 349 คน เมื่อให้ลงมติ พบว่ามีผู้ลงมติพียง 339 เสียง ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ถูกทักท้วงจากส.ส.ฝ่ายค้าน โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า เสียงลงมติไม่ครบองค์ประชุม แต่ตอนแสดงตนครบ แสดงว่ามีมือที่สามกดแสดงตนเพิ่ม ดังนั้นขอให้ลงมติใหม่ ทำให้นายพรเพชรสั่งขอให้ลงมติใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นได้เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อนายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากไม่ได้ดั่งใจทำใหม่เรื่อยๆ กฎหมายฉบับนี้ ครูทั้งประเทศไม่พอใจ เพราะไม่มองเห็นความสำคัญของครูและเด็ก แม้ฝ่ายที่เขียนกฎหมายไม่อยากให้ผ่าน จะดื้อดึงหรือ
ด้านนายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.ครูไทยเพื่อประชาชน กล่าวว่า การลงมติร่างพ.ร.บ.ศึกษาแห่งชาติ ไม่อยากให้ถูกใช้เป็นเกมการเมือง ขอให้วางตัวเป็นกลาง และอย่าให้เป็นตราบาป
นายพรเพชร กล่าวว่า ตอนที่ตนตรวจสอบองค์ประชุมนั้นเกิน ทั้งที่ไม่ได้กดปุ่มแสดงตนด้วย แต่เมื่อตอนลงมติ ตนมองไม่เห็นจำนวน เพราะสีที่ขึ้นนั้น มองไม่เห็นว่ามีกี่คน จึงไมม่ทราบ และขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
ทำให้นายจิรายุ กล่าวว่า ยืนยันไม่มีเกมการเมืองใดๆ แต่การลงมติไม่ครบองค์ประชุม ดังนั้นควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องร้องเป็นโมฆะ ดังนั้นหากองค์ประชุมไม่ครบ ปิดประชุมกลับบ้านดีกว่า
ทำให้นายพรเพชรขอตรวจสอบองค์ประชุมอีกครั้ง แต่ถูกประท้วงการทำหน้าที่ จากส.ส.ฝ่ายค้าน เพราะมองว่าการประชุมจบแล้ว เมื่อองค์ประชุมไม่ครบ และหากดำเนินการต่อ พรรคฝ่ายค้านจะไม่ขอร่วมประชุมด้วย แม้ว่า ส.ว.จะเสนอให้ลงคะแนนใหม่อีกครั้งก็ตาม
ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ขอให้ประธานใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา นับองค์ประชุมใหม่และลงมติใหม่ด้วยวิธีอื่น เพื่อให้การประชุมสามารถเดินหน้าต่อได้ แต่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน โดยย้ำว่า หากตัวเลขไม่ครบ ก็จำเป็นต้องปิดการประชุม ทำให้ประธานฯสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 12.49 น.
