วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
หน้าแรกNEWSเหตุชายแดนติดกัน‘ไทย’รับแรงกดดันสูง นายกฯยันจุดยืนไม่เอียงข้าง‘เมียนมา’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เหตุชายแดนติดกัน‘ไทย’รับแรงกดดันสูง นายกฯยันจุดยืนไม่เอียงข้าง‘เมียนมา’

‘บิ๊กตู่’ ยันจุดยืนไม่เอียงข้างเมียนมา ยอมรับไทยรับแรงกดดันสูง เหตุชายแดนติดกัน เผยวงประชุมสางปัญหาเมียนมา แค่คุย 3 ครั้ง 9 ปท. 

เมื่อเวลา 13.15 น.วันที่ 20 มิ.ย.พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัยรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ  เชิญรมว.ต่างประเทศของประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียน และนอกอาเซียน มาร่วมพบปะแบบสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมา เพื่อหาทางออกปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า  ก็รายงานแล้วไม่มีปัญหาอะไรเป็นการประชุมครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งมีประเทศที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 9 ประเทศ ส่วนที่บางประเทศเขาไม่มา ก็ไม่เป็นอะไร แต่ก็ต้องส่งให้ทราบกันอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นการไปตกลงอะไรกับใคร แต่เป็นการเดินหน้าการแก้ปัญหาในกรอบอาเซียน 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนบ้านติดกัน อาเซียนทุกประเทศก็คาดหวังว่า ประเทศไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากที่สุด แต่อย่าลืมว่าประเทศเราก็มีปัญหาของเราเหมือนกัน ในเรื่องผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน วันนี้ถ้าหากติดตามจะเห็นได้ว่าการสู้รบรุนแรงขึ้น เราก็ได้มีการหารือกันว่าจะลดความรุนแรงได้หรือไม่ ในเรื่องการรบตามแนวชายแดน วันนี้มีประชาชนหลายพันคน ที่อยู่ตามแนวชายแดน ที่เข้ามาอยู่ในฝั่งไทย เราก็ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน และส่งกลับไปตามความสมัครใจของเขา  นอกจากนี้ ยังส่งข้อเสนอว่าจะทำอย่างไรที่จะลดการสู้รบให้ได้มากที่สุด โดยขอให้เขาได้พิจารณา เรื่องข้อเสนอต่างๆที่จะไม่นำไปสู่ ความอลหม่านในอนาคต   ทั้งนี้ครั้งนี้เป็นการพูดคุยกันเป็นครั้งที่ 3 ย้ำว่าไม่ได้มีการไปตกลงอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เป็นการเสนอแนะแนวปฏิบัติ ซึ่งสุดแล้วแต่ว่าเขาจะนำไปปฏิบัติอย่างไร

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าประเทศไทยเอียงไปทางเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 

ยืนยันว่า ไม่มีการเอียง มันเอียงไม่ได้ เราปฏิบัติตามมติสหประชาชาติ (ยูเอ็น)ไปแล้ว รวมถึงมติของอาเซียน ซึ่งมันยังไม่ก้าวหน้าเราก็ต้องหาวิธีการพูดคุยอย่างอื่น เพิ่มเติมมาซึ่งจะต้องมีการนำเสนอในอาเซียนอยู่แล้ว ไม่ใช่ไปขัดแย้งอะไรกับใคร ทั้งนี้เราต้องมองถึงผลประโยชน์ของประเทศด้วย ว่าความเสียหายจะเกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้าง ต้องมอง 2 มิติด้วยกัน แต่ความคิดเห็นจากภายนอกเราก็รับฟัง อะไรที่ปฏิบัติได้เราก็ปฏิบัติไปจนครบแล้ว แต่หลังจากนี้จะมีแรงกดดันอะไรเพิ่มมากขึ้น ไปยังเมียนมา เราก็ต้องพยายามลดปัญหาตรงนี้ให้ได้ เพราะมีผลกระทบกับประเทศไทยในหลายเรื่องตามมาหากยุติไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทุกประเทศที่มาประชุมก็เห็นด้วยว่า ควรจะต้องหารือกัน ในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน เพื่อแสวงหาทางออกและนำเข้าไปสู่ที่ประชุมอาเซียนในครั้งต่อไป ทุกรัฐบาลก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ อย่างที่บอกเรารับแรงกดดันสูงมาก ในฐานะที่เรามีชายแดนติดกับประเทศเมียนมากว่า 3,000 กิโลเมตร.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img