วันอังคาร, พฤษภาคม 7, 2024
หน้าแรกNEWSสภาฯถกปมตร.ฉาว!“ก.ก.”เหน็บ“บิ๊กต่อ” เย้ยยุค“รัฏฐาธิปัตย์-ม.44”ยังทำไม่สำเร็จ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สภาฯถกปมตร.ฉาว!“ก.ก.”เหน็บ“บิ๊กต่อ” เย้ยยุค“รัฏฐาธิปัตย์-ม.44”ยังทำไม่สำเร็จ

สภาฯถกญัตติปมตำรวจ! “รทสช.” จี้ปฏิรูปตำรวจควรเริ่มที่สภาฯไม่ใช่โยนให้รัฐบาลทำ ด้าน “เท่าพิภพ” แซะขอบคุณเลือก “บิ๊กต่อ” นั่งผบ.ตร.คนใหม่ ความหวังชั้นผู้น้อยเจริญเติบโตได้ไวขนาดนี้ ขณะที่ “วิโรจน์” เย้ยขนาดยุค “รัฏฐาธิปัตย์-ม.44” ยังทำไม่สำเร็จ จี้รบ.ให้ความสนใจ สุดท้ายส่งให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อ

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.66 เวลา 16.05 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรร่วมกันเสนอวิธีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งมีผลกระทบกระเทือนต่อประชาชนต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ และญัตติปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งความเห็นและข้อร้องเรียนให้ครม.เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจ ตามที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ

โดยนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า การปฏิรูปตำรวจที่เสนอนั้น ควรเริ่มจากสภาฯ ไม่ใช่โยนให้รัฐบาลดำเนินการ เพราะที่ผ่านมามีการพูดถึงการปฏิรูปตำรวจมานาน แต่ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ ขณะเดียวกันประเด็นซื้อขายตำแหน่ง ตนเป็นผู้ที่อภิปรายเรื่องดังกล่าว แต่กลับถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท แต่จนถึงขณะนี้ขั้นตอนทางคดีไม่ทราบอยู่ในขั้นตอนใด

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายกรณีที่ประชุม ก.ตร. ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เป็น ผบ.ตร. คนใหม่ว่า ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายเพราะ ไม่ใช่บุคคลที่มีความอาวุโสสูงสุด ซึ่งหากพิจารณาตามความอาวุโสและผลงาน พบว่า พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. มีความอาวุโสสูงอายุ อายุงานจากผู้กำกับ จนถึงปัจจุบัน 21 ปี ส่วนผบ.ตร.ที่ได้รับเลือก อายุงานจากผู้กำกับถึงปัจจุบัน เพียง6 ปีเท่านั้น

“ผมขอบคุณนายกฯ ที่เลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เพราะเป็นความหวังของตำรวจชั้นผู้น้อยอย่างยิ่ง ว่าวันหนึ่งจะสามารถเจริญเติบโตในหน้าที่การงานได้ไวขนาดนี้” นายเท่าพิภพ กล่าว

ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า สื่อตั้งคำถามกับนายกฯว่า ถึงเวลาสังคายนาตำรวจหรือยัง นายกฯตอบว่า อย่าใช้คำนั้น และขอแก้ไขทีละเรื่อง ตนเห็นว่าคำว่า “สังคายนา” ไม่ใช่คำลบ แต่สะท้อนว่านายกฯยังไม่เห็นปัญหา หรืออาจเห็นแล้วแต่ยังไม่ยอมรับถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ขึ้นจำนวนมากในวงตำรวจ เช่น นายตำรวจยศสูงใส่ร้ายกันไปมา แทนที่จะจับโจรก็กลายไปไล่จับกันเอง ตำรวจชุดคอมมานโดอาวุธครบมือบุกค้นบ้านอดีตรองผบ.ตร. อีกทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรื่องส่วยต่างๆ ทั้งส่วยรถบรรทุก สถานบันเทิง และน้ำมันเถื่อน ทั้งหมดมีตำรวจบางกลุ่มเข้าไปเกี่ยวข้อง มีพฤติกรรมเข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจร เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องไม่ปกติ

“การแก้ไขปัญหาของตำรวจ นอกจากการปฏิรูปแล้ว ควรแก้ไขเรื่องต่างๆ ทั้งเสรีภาพของสื่อมวลชน กฎหมายบางฉบับที่ตำรวจใช้ในการรีดไถ่ ทบทวนโทษที่ไม่สมสัดส่วน การกระจายอำนาจ ความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล ปกป้องผู้ให้เบาะแส อย่างไรก็ตามถ้าใช้วิธีการปราบปรามสำเร็จ คนมีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ถือม.44 ก็คงแก้ไขสำเร็จไปแล้ว แต่9ปีที่ผ่านมา ยาบ้าก็ยังราคาถูก มีทั้งพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้น ตนจึงอยากให้รัฐบาลสนใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาชิกจะเห็นด้วยว่ากับการที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐและการปฏิรูปประเทศ จะเข้ามาจัดการกับปัญหานี้ด้วย” นายวิโรจน์ กล่าว

หลังจากที่มีการเปิดให้สส.อภิปรายถึงปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างกว้างขวาง และอภิปรายสรุปโดยผู้เสนอญัตติ เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นที่ประชุมมีมติส่งญัตติด่วนทั้ง 2 ญัตติให้รัฐบาลไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img