วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกNEWS“จักรภพ”เปิดใจหลังลี้ภัยการเมือง 15 ปี สิ่งแรกจะทำไหว้ร่างแม่ที่ยังไม่ได้ฌาปนกิจ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จักรภพ”เปิดใจหลังลี้ภัยการเมือง 15 ปี สิ่งแรกจะทำไหว้ร่างแม่ที่ยังไม่ได้ฌาปนกิจ

“จักรภพ เพ็ญแข” ลั่นพร้อมเข้าร่วมทำงานในครม. แต่หากประเมินแล้วส่งผลต่อความขัดแย้งก็ขออยู่เบื้องหลัง

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาจากการลี้ภัยในต่างประเทศ นานกว่า 15 ปี กล่าวภายหลังจากการบันทึกจับกุมและให้ปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมงว่า วันนี้ตนเองมามอบตัวเพื่อสู้คดี 2 คดี ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับอาวุธทั้งหมด ที่ฟ้องโดยศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศาลอาญา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประสานกับทนายความ และประสานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การทำงานในวันนี้รวดเร็ว ซึ่งตนได้เดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่จะรับใช้ชาติ จากนี้ไปตั้งใจว่าอะไรที่ทำให้ประเทศชาติได้ก็จะทำ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้เคยพูดไว้ ขณะที่เกิดรัฐประหาร ปี 2549 ซึ่งขณะนั้นไม่มั่นใจสิ่งที่พูด สิ่งที่คิด สิ่งที่กระทำลงไป ตอนนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่เมื่อผ่านมาแล้ว 15 ปี คิดอะไรได้เยอะขึ้น อยากจะบอกว่าอยู่ในเมืองไทยอาจไม่เห็นปัญหาเท่ากับการอยู่ที่ต่างประเทศ มีมิติที่ดีในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

ส่วนการกลับประเทศไทยครั้งนี้ มีดีลลับหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า เรื่องดีลฟังดูไม่ค่อยดี แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาจนถึงบัดนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีการพูดคุย เสมือนการพูดคุยเพื่อหาจุดร่วม แทนที่จะหาจุดต่างแล้วเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แต่ที่สำคัญที่สุดการเมืองภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ซึ่งตนเองพูดไม่ได้มากกว่านี้ สิ่งที่พัฒนาขึ้นจากเดิมที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ แต่ปัจจุบันก็พอพูดคุยกันได้ ส่วนที่มองว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกลับมาหรือไม่นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการพูดคุยกัน และแม้กระทั่งกลุ่มผู้มีอำนาจที่เคยทำรัฐประหารด้วย ดังนั้นต้องย้อนกลับไป 9-10 ปี ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าสู่สภาวะอย่างไร ทั้งนี้มันเกิดขึ้นได้ เพราะฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้น ในขณะที่ฝั่งก่อรัฐประหารก็เบาบางลง

เมื่อถามว่า หากมีการทาบทามให้เข้าทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรีจะเข้าร่วมหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ยินดี แต่จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในพรรคการเมือง หากประเมินแล้วว่า การเข้าไปจะส่งผลถึงความขัดแย้งในพรรคการเมือง ก็จะขอทำงานอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร แต่ละคนก็ต้องทำการบ้าน เพราะมีคดีคนละรูปแบบ และขอย้ำว่า เป็นการพูดคุย ไม่ใช่เป็นการขอคำปรึกษา แต่นายทักษิณได้ฝากข้อความสำคัญไว้ว่า ยุคนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และตนจะเข้าพบกับนายทักษิณแน่นอน ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นยังไม่ได้คิด แต่จะขอเป้นโอกาสาแรกที่สามารถทำได้ เพราะคิดถึง และอยากถามนายทักษิณว่ามีความสุขดีหรือไม่

ส่วนหลังจากนี้จะมีอดีตแกนนำ หรือผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับมาบ้างหรือไม่ นายจักรภพ ระบุว่า ตนเองขอเสนอตัวเป็นคนช่วยเหลือบุคคลที่อยากกลับประเทศไทย แต่จะขอดูเป็นคดีความไป หากคดีความสามารถใดดำเนินการได้ง่ายก็จะช่วย ส่วนวิธีการช่วยเหลือคือความมั่นใจในฐานะที่ตนเองเดินทางเข้ามาก่อน เปรียบเสมือนหนูทดลองยา และจะรวมถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น เท่าที่ทราบอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีจำนำข้าว ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าท่านก็อยากกลับบ้านเหมือนทุกคน แต่ตนเองคงไม่มีสติปัญญามากพอที่จะไปช่วยในระดับนั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรกหลังจากนี้ คือการไปกราบร่างแม่ที่ยังไม่ได้รับการฌาปนกิจ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ส่วนบิดาแม้ว่าจะฌาปนกิจไปแล้ว ก็จะไปกราบที่บ้านของน้องชายต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img