”อนุทิน’’ เจรจรา “ซิโนฟาร์ม” ย้ำรัฐไม่ปิดกั้นขอให้ผ่านมาตรฐาน “อย.-กรมการแพทย์” วอนอย่าดราม่าเปรียบเทียบ ขณะที่ “โมเดอร์นา” ยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนในไทย คาดพิจารณาแล้วเสร็จในพ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ตัวแทนบริษัทซิโนฟาร์มมาพบและหารือ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนการขึ้นทะเบียนวัคซีนของทุกบริษัทอยู่แล้ว หากซิโนฟาร์มจะขึ้นทะเบียนเพื่อขายให้กับรัฐ หรือเอกชนในไทยก็ต้องส่งเอกสารขึ้นทะเบียนตามระเบียบที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนด แต่ในรายละเอียดนั้นยังไม่ได้เจรจากัน เราต้องเจรจากับบริษัทที่มีความพร้อม คืออย่างน้อยต้องมีการยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนในประเทศไทยก่อน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องขอยืนยันอีกครั้งเนื่องจากวันนี้ยังมีคนพูดกันอยู่ว่ารัฐบาลปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีน ซึ่งไม่จริงเลย วันนี้วัคซีนเข้ามาได้ต้องเสรี หมายถึงต้องมีคุณสมบัติมาตรฐานที่ดี มีความปลอดภัย ซึ่งคนที่จะให้การรับรองคุณภาพมาตรฐานคือ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถ้าผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ 2 หน่วยงานหลักนี้ ถือว่าวัคซีนเหล่านั้นสามารถเข้ามาในประเทศไทยได้
“รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นโอกาส หรือกีดกันวัคซีนรายให้ไม่ให้เข้าประเทศ ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ทุกคนทราบว่าคุณสมบัติ ระเบียบต่างๆ ต้องใช้อะไรบ้าง เป็นที่เปิดเผยหมด ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีการเจรจากับบริษัทวัคซีนอยู่หลายตัว แต่ไม่อยากให้ประชาชนมารอว่าจะฉีดตัวไหน หรือไม่ฉีดตัวไหน เพราะประชาชนคงไม่สามารถเลือกได้ แต่ยืนยันว่าวัคซีนที่รัฐจัดหามาให้นั้นมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลที่ดี วันนี้วัคซีนตัวหลักของไทยคือแอสตร้าฯ ส่วนวัคซีนอื่นๆ เป็นวัคซีนทางเลือกเช่น ถ้าสามารถสั่งของไฟเซอร์เข้ามาได้ ก็จะนำมาฉีดให้กับกลุ่มอายุ 12-18 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถรับวัคซีนตัวอื่นได้ อย่างไรก็ตามวัคซีนที่รัฐจัดหานั้นมีคุณภาพ ประสิทธิ์ภาพ อย่าง ซิโนแวคเข็ม 1 กับเข็ม 2 ต้องห่างกัน 3 สัปดาห์ จึงฉีดให้บุคลากร คนทำงานด่านหน้าเพื่อให้สามารถฉีดซ้ำเข็ม 2 ได้เร็ว ภูมิขึ้น ขณะที่แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 1 เข็ม 2 ห่างกัน 12 สัปดาห์
“ประชาชนทั่วไปไม่ได้มีความได้เปรียบหรือเสียเปรียบว่าจะได้รับวัคซีนตัวไหน เพราะจะได้รับวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดความปลอดภัยอยู่แล้วเทียบเท่ากันหมด ไม่อยากให้เกิดดราม่ายี่ห้อวัคซีนอะไรเพราะวัคซีนที่เข้ามาในประเทศไทยมีคนคอยตรวจสอบมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยอยู่ นอกจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วยังมีคณะกรรมการด้านความปลอดภัยในการใช้วัคซีนพิจารณาด้วย วัคซีนตัวไหนจะใช้อย่างไรจะหยุดอย่างไร ผมก็ต้องฟังคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองแล้ว ไม่ได้ฟังจากข่าวที่คนนั้นพูดอย่างหนึ่งคนนี้พูดอย่างหนึ่ง เราต้องมั่นใจในทีมวิชาการของเรา”นายอนุทินกล่าว
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ซิลิคฟาร์มา จำกัด ได้มีการยื่นเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนของวัคซีนโมเดอร์นา ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าน่าจะพิจารณาแล้วเสร็จในเดือนนี้.
