วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
หน้าแรกHighlightโพลชี้คนกรุงฯยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร เพราะไม่รู้มีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เมื่อใด
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โพลชี้คนกรุงฯยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร เพราะไม่รู้มีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เมื่อใด

“ซูเปอร์โพล” ชูโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.รอบ 1 ชี้ชัดเจน “คนกรุงฯ” ยังไม่ตัดสินใจจะเลือกใคร นึกไม่ออก เพราะไม่รู้จะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่ต้องการให้มีเลือกตั้งเร็วๆ แต่ 3 อันดับแรก “ชัชชาติ” ยังนำเล็กน้อย ตามติดด้วย “ดร.พี่เอ้” ส่วน “ผู้ว่าฯอัศวิน” รั้งที่สาม

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง โพลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. รอบ 1 (ชีวิตที่สัมผัสได้จริง) กรณีศึกษา 2 กลุ่มประชากรเป้าหมาย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและกลุ่มเครือข่ายผู้นำชุมชนคน กทม. โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ในการวิเคราะห์ประมวลข้อมูลมิติต่าง ๆ ของความต้องการและตื่นตัวของคน กทม. ด้วยการสำรวจตัวอย่างประชาชนจากทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานครจำนวนทั้งสิ้น 29,595 ตัวอย่าง และสุ่มตัวอย่างเครือข่ายแกนนำชุมชนจาก 2,016 ชุมชนจำนวน 498 ตัวอย่าง ผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Mode) ทั้งการสัมภาษณ์แบบเคาะประตูบ้าน พบปะคนตอบแบบสอบถาม สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์และแบบตอบเอง ด้วยแพลตฟอร์ม (Platform) ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับกลุ่มคนมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่พักอาศัยใน 4 ลักษณะได้แก่ ชุมชนแออัด ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ชุมชนอาคารสูง และอื่นๆ ระหว่างวันที่ 10-18 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.5 ต้องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยเร็ว ในขณะที่ร้อยละ 10.5 ยังไม่ต้องการ

ที่น่าพิจารณาคือ ช่องว่างระหว่างความต้องการกับสิ่งที่เห็นจริงของกรุงเทพมหานครวันนี้ ในมิติต่าง ๆ ได้แก่ กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางนานาชาติด้านเศรษฐกิจ ที่คนกรุงเทพฯต้องการ ร้อยละ 78.8-แต่ที่เห็นจริง ร้อยละ 33.3, กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งสุขภาวะ สะอาดที่คนกรุงเทพฯต้องการ ร้อยละ 83.4-แต่ที่เห็นจริง ร้อยละ 30.0, กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางเรียนรู้การศึกษาของบุตรหลานคนกรุงเทพฯที่ใช้ประโยชน์ต่อชุมชนที่พักอาศัยได้จริง ที่คนกรุงเทพฯต้องการ ร้อยละ 82.0-แต่ที่เห็นจริง ร้อยละ 37.8, กรุงเทพฯมีระบบการจราจร สะดวกสบาย ไม่ติดขัด ที่คนกรุงเทพฯต้องการ ร้อยละ 81.7-แต่ที่เห็นจริง ร้อยละ 17.7 ในขณะที่กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความปลอดภัยที่คนกรุงเทพฯ ต้องการ ร้อยละ 82.0-แต่ที่เห็นจริง ร้อยละ 24.6

ที่น่าสนใจคือ ภาพลักษณ์ด้านความเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ เก่ง ทันสมัย นึกถึงใครอันดับแรก ในกลุ่มคนที่มีข่าวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าฯกทม. จำแนกระหว่างเครือข่ายแกนนำชุมชน กับ ประชาชน คนกทม. พบว่า จำนวนมากที่สุดหรือส่วนใหญ่ทั้งกลุ่ม เครือข่ายแกนนำชุมชน และประชาชน คนกทม. ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 31.7 ของแกนนำชุมชน กับร้อยละ 53.2 ของคน กทม. ระบุ ยังนึกไม่ออก ยังไม่มีใครในใจ ยังว่างอยู่ ไม่นึกถึงใครเลย อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มแกนนำชุมชน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ได้ร้อยละ 27.1, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ร้อยละ 24.9 และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้ร้อยละ 10.6 และกลุ่มอื่น ๆ เช่น นางสาวรสนา โตสิตระกูล และนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เป็นต้น ได้ร้อยละ 5.7

นอกจากนี้ ในกลุ่มตัวอย่างประชาชนคน กทม. เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.2 ยังนึกไม่ออก ยังไม่มีใครในใจ ยังว่างอยู่ และไม่นึกถึงใครเลย เมื่อพูดถึงภาพลักษณ์ด้านความเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ ทันสมัย อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 21.2 ระบุเป็นนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, ร้อยละ 18.7 ระบุนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และร้อยละ 3.7 ของประชาชนคนกทม.ทั่วไป ระบุพล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง และที่เหลือหรือร้อยละ 3.2 ระบุอื่น ๆ ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ ภาพลักษณ์ด้านการเข้าถึงชุมชน พบว่า อันดับหนึ่งคือ ทั้งกลุ่มเครือข่ายแกนนำชุมชนร้อยละ 32.5 และประชาชนคน กทม.ทั่วไป ร้อยละ 47.2 ยังนึกไม่ออก ยังไม่มีใครในใจ ยังว่างอยู่ ไม่นึกถึงใครเลย อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 28.7 ของกลุ่มแกนนำชุมชน ระบุเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ร้อยละ 19.7 ระบุเป็นนายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, ร้อยละ 13.3 ระบุพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และร้อยละ 5.8 ระบุอื่น ๆ ตามลำดับ นอกจากนี้ ร้อยละ 38.6 ของประชาชน คนกทม. ระบุเป็นนายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์, ร้อยละ 10.0 ระบุเป็นนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, ร้อยละ 2.6 ระบุพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และร้อยละ 1.6 ระบุอื่น ๆ ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงความตั้งใจจะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯกทม. พบว่า ส่วนใหญ่ในกลุ่มประชาชน คนกทม. ทั่วไป หรือร้อยละ 43.8 และแกนนำชุมชนร้อยละ 29.7 ยังไม่มีใครในใจ ยังไม่รู้มีเลือกตั้งเมื่อไหร่เลย ยังไม่ตัดสินใจ ยังไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ร้อยละ 17.6 เพราะมีประสบการณ์ ติดดินลงพื้นที่ต่อเนื่อง ปฏิบัติงานจริง ไม่สร้างภาพ เข้าถึงชุมชน ประชาชนเข้าถึงได้ เป็นผู้สมัครอิสระไม่สังกัดพรรค เชื่อมั่นว่าทำงานกับทุกพรรคการเมืองได้ มีแนวคิดและวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นต้น, นายสุชัชวีร์  สุวรรณสวัสดิ์ ได้ร้อยละ 14.2 เพราะเป็นคนรุ่นใหม่กับแนวคิดเปลี่ยนกรุงเทพฯ มีฐานสนับสนุนจากพรรคจะทำอะไรได้มากกว่าทำเพียงลำพังอิสระ และอยากลองคนใหม่ และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้ร้อยละ 12.6 เพราะเป็นคนจริงจัง มีความกล้าหาญ ทำงานหนัก เป็นอดีตตำรวจ เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 11.8 ระบุอื่น ๆ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 28.1 ของเครือข่ายแกนนำชุมชน ระบุเป็นนายชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์รองลงมาคือ ร้อยละ 22.5 ระบุ เป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ร้อยละ 9.2 ระบุเป็นพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และร้อยละ 10.5 ระบุอื่น ๆ ตามลำดับ

เมื่อจำแนกแบ่งสัดส่วนของประชาชนคนกทม.ที่ถูกศึกษาในโครงการนี้ ออกตามเขตต่าง ๆ ทั้ง 50 เขต พบว่า ประชาชน คนกทม. ส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจ ยังนึกไม่ออก ไม่แน่นอนว่าจะเลือกใครเป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตัวเลขส่วนใหญ่อยู่ที่กว่าร้อยละ 40 ของตัวอย่างทั้งหมด โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มีสัดส่วนที่เกาะกลุ่มกันในทุกเขต อยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 กว่าๆ พอ ๆ กัน ไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในหลายพื้นที่ ตามที่แสดงในอินโฟกราฟิกแผนที่ กทม. ของผลการสำรวจครั้งนี้

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า โพลเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ให้เห็นนัยสำคัญ ๆ หลายประการ เช่น คนที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ ยังไม่ตัดสินใจ ยังนึกไม่ออกว่าจะเลือกใคร ยังไม่แน่นอน เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ยังไม่รู้ว่ามีใครลงสมัครแน่นอนบ้าง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ต้องการให้มีความชัดเจนและจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว นอกจากนี้ สัดส่วนของคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร ยังคงเกาะกลุ่มกันไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและยังไม่แน่นอน อาจเปลี่ยนใจได้เช่นกัน ทั้งนี้การสังกัดพรรคการเมืองยังมีนัยสำคัญต่อเสียงของแกนนำชุมชน อย่างไรก็ตาม แกนนำชุมชนและประชาชน คือ Voter ที่ต่างมีสิทธิและเสียงเท่ากัน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า นับจากนี้ไปการออกแบบกลยุทธ์เพื่อชนะใจคนกรุงเทพมหานคร ที่ส่วนใหญ่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและยังไม่พอใจต่อกรุงเทพมหานครวันนี้ เพราะมีช่องว่างที่กว้างระหว่างความต้องการของคนกรุงเทพมหานคร กับสิ่งที่เป็นจริงวันนี้ เช่น กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ปลอดภัย กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีระบบการจราจรที่สะดวกสบายไม่ติดขัด กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ในการศึกษาของบุตรหลานคนกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งสุขภาวะและศูนย์กลางนานาชาติด้านเศรษฐกิจ ที่มิติเหล่านี้คนกรุงเทพฯ สะท้อนออกมาในผลสำรวจว่า ยังไม่เห็นว่าเป็นจริงแต่มีความต้องการให้เป็นอยู่มาก ผู้สมัครชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงถูกจับตาเป็นอย่างมากที่ผู้สมัครต้องชัดเจนและแสดงออกถึง วิสัยทัศน์ ความรู้ ประสบการณ์ ติดดินเข้าถึงปัญหาชุมชน ไม่สร้างภาพ จริงใจและตรงไปตรงมา พร้อมจะทำงานกับทุกคนได้ และต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นอย่างไรในอีก 4 ปีข้างหน้า ทั้งในมิติของเมืองหลวงของประเทศ เมืองศูนย์กลางของอาเซียน เมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก และในมิติที่เป็นบ้านและต้องยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นของกลุ่ม Voter (คนมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) ที่มีความต้องการสูง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img