“พิเชษฐ” ยันพรรคเล็กกินข้าวกับนายกฯไม่มีต่อรองผลประโยชน์ ย้ำกลุ่ม16 รวมตัวรับมือเลือกตั้ง ชี้มี 2 แนวทางเลือกหวังกลับมาเป็นส.ส.อีก
วันที่ 21 มี.ค.65 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะแกนนำกลุ่ม16 กล่าวยืนยันว่าการร่วมรับประทานอาหาร ระหว่างส.ส.พรรคเล็กร่วมรัฐบาล กับ แกนนำรัฐบาล อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ใช่การต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมือง ทั้งนี้หลังการพูดคุยโดยตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ พรรคเล็กได้เสนอความต้องการให้รัฐบาลผลักดันการออกกฎหมายเพื่อประชาชน โดยเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการให้บำนาญประชาชน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน และนายกฯไม่ลงนามรับรอง ทั้งนี้ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อสมัยประชุมสภาฯ เปิด ในวันที่ 22 พฤษภาคม กลุ่มพรรคเล็กจะเสนอญัตติให้สภาฯ พิจารณาศึกษาเพื่อทำข้อเสนอแนะและความเห็นไปยังรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ เช่น การตรากฎหมาย เป็นต้น
นายพิเชษฐ กล่าวว่า สำหรับ ส.ส.ในกลุ่ม 16 ที่ปัจจุบันมีสมาชิก 18 คนมาจากพรรคการเมืองขนาดเล็ก ไม่ใช่กลุ่มที่รวมตัวเพื่อโค่นล้มรัฐบาล แต่คือการรวมตัวเพื่อหาทางออก และร่วมมือช่วยเหลือเพื่อให้ ส.ส.พรรคเล็กสามารถกลับมาเป็น ส.ส. ได้ในสมัยเลือกตั้งครั้งหน้า กลุ่มพวกเราจะนัดหารือกัน 1-2 ครั้งต่อเดือนเพื่อหาความร่วมมือ และช่วยเหลือกัน หลังจากที่กติกาการเลือกตั้งถูกแก้ไข ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบและขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีตัวแทนกลุ่มจะเสนอสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อให้ใช้ตัวหารเป็นจำนวน ส.ส. 500 คนไม่ใช่ 100 คน แม้มีข้อท้วงติงว่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข มาตรา 91
นายพิเชษฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับการหารือเบื้องต้น มี 2 แนวทาง คือ การควบรวมพรรค และ ย้ายไปสังกัดพรรคใหญ่ ทั้งนี้ในแนวทางการควบรวมพรรค หารือว่า กรณีของ ส.ส.ที่เป็นหัวหน้าพรรค เลือกตั้งครั้งหน้าต้องลงเลือกตั้งแบบเขต เพราะมีโอกาสได้กลับเข้าสภาฯ เพราะหัวหน้าพรรคนั้นมีฐานคะแนนนิยม หากได้คะแนน 4.5 หมื่นคะแนนสามารถชนะเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ได้ แต่หากลงเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องใช้คะแนน 3.5 แสนคะแนน- 4 แสนคะแนน ถึงมีโอกาสได้เข้าสภาฯ ส่วนส.ส.ที่ไม่ใช่หัวหน้าพรรคขณะนี้ยังไม่มีแนวทาง เพราะต้องรอความชัดเจนของกติกาเลือกตั้งก่อน ขณะที่แนวทางการย้ายสังกัดพรรคใหญ่ จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย โดยหากหัวหน้าพรรคย้าายไป เชื่อว่าพรรคใหญ่ยินดีต้อนรับ และพรรคพลังประชารัฐพร้อมต้อนรับ
