“สุเทพ” ไปศาลตามนัดตรวจหลักฐาน คดีฮั้วประมูลโรงพัก เชื่อคดีไม่ซับซ้อน อาจจบเร็วได้ ชี้คดีทุจริตน่าอาย ต้องพิสูจน์ความจริง ปกป้องเกียรติตนเอง
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 65 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทางศาลฎีกาได้นัดตรวจหลักฐาน ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โจทย์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับพวกรวม 6 คน เป็นจำเลย กรณีถูกกล่าวหาร่วมกันฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพัก 396 แห่ง
ทั้งนี้นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า พยานทางฝ่ายตนจะเชิญพยานที่คณะป.ป.ช.เชิญไต่สวนมาแล้ว ซึ่งสะดวกดีทั้งฝ่ายโจทย์ฝ่ายจำเลยใช้พยานคนคนเดียวกัน ทั้งหมดเป็นเรื่องของการพิสูจน์ข้อเท็จจริง คิดว่ารูปคดีทำให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริงชัดเจนขึ้น และมีความเข้าใจที่ดีจากการพิจารณาในศาลฎีกา
เมื่อถามว่า เบื้องต้นที่ศาลฎีกากำหนดนัดไต่สวนโจทย์และจำเลย ช่วงเวลาที่ศาลนัดคาดว่าจะทำให้คดีนี้เสร็จสิ้นรวดเร็วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่โดยเนื้อหาของคดีไม่มีความซับซ้อนยุ่งยากมากนัก ฉะนั้นตนคิดว่าดูตามเวลาที่ศาลได้นัดไต่สวนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ตนคิดว่าคดีก็น่าจะจบได้
อย่างไรก็ตามตนไม่กังวลแต่ก็ไม่ประมาท พยายามที่จะอ่าน ทบทวน ดูเอกสาร และพยายามที่จะลำดับความเพื่อที่จะซักถามพยานได้ให้ตรงประเด็น คดีนี้สำคัญที่ถูกดำเนินคดีเนื่องจากการเดินขบวน และถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 5 ปี เข้าไปอยู่ในคุก 2-3 วัน ยังไม่รู้สึกอับอาย เพราะทำให้ชาติบ้านเมืองประชาชนเห็นชัด แต่การถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตอันนี้น่าอับอายจึงต้องพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ให้แข็งแรงไม่งั้นคงเสียความรู้สึก ของคนที่เป็นเพื่อนฝูง ญาติมิตร และลูกหลานในวันข้างหน้า ก็ต้องปกป้องเกียรติยศของตนเองและกลุ่มคนที่มีความปรารถนาดีต่อตนเอง
