“จุรินทร์-อนุทิน” ยันยกมือหนุนร่างพ.ร.บ.งบฯ66 ผ่านฉลุย แจงจัดทำงบฯมีข้อจำกัด-ผลกระทบจากหลายวิกฤต
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมครม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจ้องล้มร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ว่า จนถึงขณะนี้ตนยังคิดในแง่ดีว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรได้ เพราะรัฐบาลยังมีเสียงข้างมากอยู่ เท่าที่ตรวจสอบเสียงสนับสนุนรัฐบาลยังมีอยู่
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านส่วนท้วงติงว่าการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯครั้งนี้ทำให้ไม่สามารถจะกู้เพิ่มได้อีก นายจุรินทร์ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณไม่ว่ารัฐบาลไหน ต้องจัดตามสถานการณ์และสภาพเศรษฐกิจ และแต่ละช่วงสถานการณ์ของประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดทำงบประมาณในปีนี้ที่ต้องยอมรับว่า ทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เราเจอภาวะวิกฤตหลายวิกฤตซ้อนกัน ทั้งวิกฤติโควิด-19 วิกฤติเศรษฐกิจในภาพรวม และสงครามรัสเซียยูเครน ทั้งหมดล้วนมีผลกระทบ และนำมาสู่การจัดทำงบประมาณในปีนี้ มันจะเหมือนกันทุกปีไม่ได้ ตนเชื่อว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างดีที่สุดในการจัดทำงบประมาณ ทุกคนอยากเข้าไปแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ แต่ภาวะข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ทำให้ทำได้ตามข้อจำกัดที่มีอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากเกินไปหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เป็นหน้าที่แต่ละฝ่าย และฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบถือว่าปกติ รัฐบาลก็ชี้แจง เชื่อว่านายกฯและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจง
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านขู่ที่จะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯก่อนรับหลักการนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนจะถึงขั้นมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดเตรียมการเรื่องงบประมาณไม่ใช่รัฐบาลหรือครม.ทำ แต่ทุกอย่างเริ่มจากความต้องการของประชาชน และผ่านการกันกองนำเสนอจากข้าราชการประจำ ครม.มีหน้าที่พิจารณาและส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎร
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หากฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐมนตรีคนไหนปฎิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เหมาะสม และมีการทุจริตก็ควรจะใช้วาระในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ เพื่ออภิปรายตัวรัฐมนตรีตรงๆ เพราะเรื่องงบประมาณมีผลกลับการเร่งนำงบประมาณมาใช้กับประชาชน หากร่างพ.ร.บ.งบฯปัญหาก็จะมีผลกระทบกับการใช้แหล่งงบอีกมากมายส่วนกระทรวงสาธารณสุขถูกจัดอันดับงบประมาณอยู่ในลำดับที่ 9 ไม่กังวลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงได้ทำการพิจารณา และยังเห็นว่ามีอีกหลายขั้นตอน
เมื่อถามถึงกรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย เตรียมลงพื้นที่อีสานใต้ในเดือนมิ.ย.นี้ จากกระทบต่อฐานเสียงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 9-10 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะลงพื้นที่ทางการเมือง ที่ต้องเริ่มรณรงค์เตรียมการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความนิยมให้กับประชาชน เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และไม่มีพื้นที่ของใคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ใครมีโอกาสก็สามารถลงไปในพื้นที่เพื่อชี้แจงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เลือกเขาเข้ามาเป็นผู้แทนฯ ทั้งนี้ ขอให้มองเรื่องดังกล่าวเป็นองคาพยพของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองแต่ละพรรคต้องไม่หยุดสร้างนโยบายให้ประชาชนเห็นว่าจับต้องได้พูดแล้วทำ
