วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSโนสน!โนแคร์! นายกฯคนใหม่ ขอแค่…ตั้งรัฐบาลเร็วดันเศรษฐกิจโต
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โนสน!โนแคร์! นายกฯคนใหม่ ขอแค่…ตั้งรัฐบาลเร็วดันเศรษฐกิจโต

ก็…ไม่พลิกโผ!! ไม่หักปากกาเซียน!! อะไร?  กับการไปไม่ถึงดวงดาวของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กับการเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ในการลงคะแนนเสียงรอบแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา

ผลของการลงคะแนนเสียงหรือการโหวต ให้ “พิธา” ในครั้งนี้ รวมเบ็ดเสร็จได้พียง 324 คะแนนเสียง จากกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ต้องได้ 376 คะแนนเสียง ถึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยได้

โดยคะแนนเสียงทั้ง 324 คะแนนเสียง แยกเป็นเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกท่านผู้ทรงเกียรติ หรือบรรดา ส.ส. แบบไม่แตกแถว ที่ 311 เสียง ขณะที่บรรดาส.ว. หรือสมาชิกวุฒิสภา ลงคะแนนเสียงเห็นด้วยเพียง 13 คะแนนเสียง

แม้ตัวนายพิธาเอง จะออกมายอมรับกับผลการลงคะแนนเสียงที่ไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ขอไปหายุทธศาสตร์ เพื่อรวบรวมคะแนนเสียงให้ได้ตามกฎตามเกณฑ์ที่กำหนด ก่อนจะถึงวันโหวตรอบที่ 2 ที่เบื้องต้นคาดกันไว้ในวันที่ 19 ก.ค.นี้

ขณะเดียวกันนายพิธา ก็ยังยึดโยงกับเป้าหมายในเรื่องของการแก้ไขมาตรา 112  แห่งรัฐธรรมนูญ ตามที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนในช่วงของการหาเสียง เพราะถือเป็น “สัญญาประชาชน”

ดังนั้น!! ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า การฝ่าด่านมหาหินในรอบต่อไปจะเป็นไปในทางไหน?  52 เสียงที่ยังขาดอยู่จะใช้วิธีใด เพราะอย่าลืมว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” อยู่แล้ว โดยเฉพาะ การทอดไมตรีของ 2 พรรคการเมืองที่ “งดออกเสียง” รวม 35 เสียง กับเสียงส.ว.ที่ไม่มาอีก 44 เสียง

สุดท้าย…การเปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่าย การพลิกเกม ตามที่มีการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ จะเกิดขึ้นในการโหวตครั้งที่ 2  หรือครั้งต่อ ๆ ไป หรือไม่?

ทั้งหลายทั้งปวง ก็อย่าลืมว่า “เกมการเมือง” ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ เวลานี้ จะทำร้ายเศรษฐกิจ จะทำร้ายประชาชนตาดำ ๆ ไปอีกนานเท่าใด เพราะการเอาชนะคะคาน โดยมีประชาชนเป็นตัวประกันนั้น ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่บรรดาภาคเอกชนจะออกมาตั้งป้อม เรียกร้องว่า ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ไม่มีผลอะไรต่อภาคเอกชนในเวลานี้ เพราะใครจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภาคเอกชนก็พร้อมทำงานร่วมอยู่แล้ว

เพียงแค่…ไม่มีการชุมนุมประท้วง ที่นำไปสู่สถานการณ์ที่รุนแรง เพียงแค่…มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศให้ “เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง” ก็เพียงพอแล้ว

อย่าลืมว่า… ประเทศไทย เศรษฐกิจไทย ในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญภาวะวิกฤติ ต้องบอบช้ำมามากมาย หากยังต้องเผชิญกับความบอบช้ำต่อไปอีก แล้วจะเหลืออะไร?

ขณะเดียวกันประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หากบรรยากาศทางการเมืองไม่น่าอภิรมย์ ไม่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว ก็จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้ต่ำตมลง

ต้องยอมรับว่าผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ลุ่มๆ ดอนๆ ทำให้เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างการส่งออก นั้นถอยหลังเข้าคลอง มีการประเมินกันว่ามูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้อาจไม่ขยายตัว หรืออาจติดลบด้วยซ้ำ

ขณะที่การท่องเที่ยวของไทย กำลังพลิกฟื้น ที่ทุกฝ่ายต่างคาดหวังกันว่าในเมื่อเครื่องยนต์หลักเดินหน้าไม่ได้

เครื่องยนต์รอง อย่างการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้อย่างน้อยก็กว่า 15% ของจีดีพี ก็จะมาช่วยค้ำยันเศรษฐกิจไทยให้ผงกหัวขึ้น

และ…หากมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาโดยเร็ว การเบิกจ่ายงบประมาณ การลงทุนภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน ก็จะเข้ามาเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยกันขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตต่อไปได้

เฉกเช่นนี้… เสน่ห์ ของประเทศไทยก็ยังมี “มนต์ขลัง” เป็นที่ดึงดูดของคนทั่วโลกต่อไป!!

แม้เรื่องของการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย แต่ถ้า “จบเร็ว” ไม่บานปลาย และ “เข้าทาง”

ฝ่ายที่รอพลิกเกม!! เพื่อให้คนแดนไกลกลับบ้านได้ตามที่ประกาศไว้ ก็ไม่ใช่เรื่อง “เลวร้าย” ที่จะถล่มประเทศไทยให้จมดิ่งไปมากกว่านี้

………………………..

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img