วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSเศรษฐกิจปีเสือโต 4% ไหวมั๊ย สารพัด“ปัจจัยเสี่ยง”...รุมเร้า!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เศรษฐกิจปีเสือโต 4% ไหวมั๊ย สารพัด“ปัจจัยเสี่ยง”…รุมเร้า!!

เก่าไป…ใหม่มา เป็นคำเปรียบเปรยที่สามารถสะท้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องแปลความอะไรให้มากเรื่อง ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นไปอย่างที่ทุกคนรับรู้กันอยู่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!!การแปรเปลี่ยนของไวรัสโควิดที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ “โอมิครอน” ที่เข้ามาเบียดบัง “เดลต้า” และกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่า ระหว่างวันที่ 22-28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อมากถึงวันละ 9 แสนรายกันทีเดียว

เช่นเดียวกับประเทศไทย…ที่มีผู้ป่วยติดโอมิครอนสะสมกว่า 700 ราย ไปแล้ว และกระจายไป 33 จังหวัดทั่วประเทศ โดยที่กทม.ยังคงเป็นแชมป์ที่พบมากที่สุดถึง 277 คน

แม้มีรายงานทางการแพทย์ว่า สายพันธุ์นี้ไม่รุนแรง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถประมาทกันได้ เพราะการแพร่ระบาดที่รวดเร็วอาจส่งผลต่อระบบสาธารณสุขได้เช่นกัน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ “ไอเอ็มเอฟ” ออกมาประเมินว่า อย่าประมาทเจ้าไวรัสร้าย เพราะการกลายพันธุ์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ หากคุมไม่ดี มูลค่าของเศรษฐกิจโลกก็จะหายไปกว่า 5.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังจากเปิดประเทศจะเริ่มผงกหัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะธุรกิจเริ่มเดินหน้า เริ่มเปิดกิจการ เริ่มหายใจหายคอได้คล่องตัว

แต่การเข้ามาของ “โอมิครอน”  ก็ทำให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ บรรดาภาคเอกชน ต่างหวาดผวา เพราะหวั่นใจว่า ถ้าไทยเอาไม่อยู่ เศรษฐกิจไทยในปี 65 จะดิ่งหัวลงอีก สุดท้ายความ “พัง” อาจบังเกิดขึ้น

“อัทธ์ พิศาลวานิช” ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า  “โอมิครอน” เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อรายได้จากต่างประเทศโดยตรง จากการส่งออก และการท่องเที่ยว

หากไวรัสชนิดนี้ยังยืดเยื้อตลอดทั้งปี 65จะส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกสำคัญของไทยอย่างยุโรป และสหรัฐฯ โดยทำให้การส่งออกของไทยที่กำลังดีวันดีคืน กลับกลายเป็นติดลบ 1.3-1.6% ทีเดียว แม้มีโอกาสเกิดได้เพียง 30% ก็ตาม

แต่…ถ้าไทยสามารถประคับประคอง สกัดเชื้อได้ดี โดยอาจเกิดขึ้นเพียงในช่วงไตรมาสแรกของปี 65 ที่มีโอกาสมากถึง 70% ก็จะผลักดันให้การส่งออกเติบโตได้ประมาณ 4.8%

“อัทธ์” ชี้ว่า หากไทยควบคุมได้ดี ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีเพียง 20,000-40,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องรอดูรอประเมินสถานการณ์กันอีกที

แน่นอนในแง่ของภาคเอกชนเอง ต่างมองไปในทิศทางเดียวกัน โดยหยิบยก “บทเรียน” จากการปิดประเทศ การล็อคดาวน์ ว่าทำให้ประเทศเสียหายอย่างไรขึ้นมาสะท้อนต่อสังคม รวมไปถึงปัญหาการเมืองโลกในหลายประเทศ ที่มีผลต่อการค้าโลก และนั่น…คือผลกระทบที่ส่งมายังประเทศไทย

ไม่แตกต่างจาก “ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้” ที่มองว่า มีหลายปัจจัยเสี่ยงที่กดดันเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 65 ที่มีทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสร้าย หากหลายประเทศล็อคดาวน์ ก็มีผลต่อระบบการผลิตของโลกและทำให้ปัญหาเงินเฟ้อยืดเยื้อ

รวมไปถึงปัญหาการเมืองระหว่างประเทศยักษ์ใหญ่ อย่างจีน และสหรัฐ ที่ยังมีผลต่อการค้าโลก หรือแม้แต่การลดก๊าซเรือนกระจก ที่อาจส่งผลให้ต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มข้น ทั้งการเลิกใส่เงินในระบบของสหรัฐ ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกเพิ่มขึ้น

มีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจไทยในปีเสือ นี้จะสามารถขยายตัวเป็นบวกได้แน่นอน เพราะฐานของปี 64 ค่อนข้างต่ำ โดยจะอยู่ในระดับที่ 4% แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือในการสกัดกั้น “โอมิครอน” ด้วยเช่นกัน

แต่ที่น่าสนใจอยู่ที่ว่า…เศรษฐกิจขยายตัวเพียงอย่างเดียวไม่พอ เพราะประชาชนคนไทยในหลายภาคส่วนยังต้องการ ยังรอคอยการช่วยเหลือ แต่การช่วยเหลือนั้น!! จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องถูกกลุ่มถูกก้อนที่แท้จริง

…………………………..

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img