วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“มั่นคง”เตือนฝ่ายการเมือง ล้มรื้อระบบ อาจไม่เป็นผลดีต่อชาติ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“มั่นคง”เตือนฝ่ายการเมือง ล้มรื้อระบบ อาจไม่เป็นผลดีต่อชาติ

เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการ แต่ฝนยังคงตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ กองทัพเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ด้านความมั่นคงเตือนฝ่ายการเมืองคิดจะล้มรื้อระบบอาจไม่เกิดผลดีต่อชาติ

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่  3 ธ.ค. กรมอุตุประกาศว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม อากาศจะเริ่มหนาเย็น และเตือนอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ กองทัพเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่

@@@……สำหรับสถานการณ์ทางการเมือง ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคง ได้เฝ้าสังเกต และติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองในช่วงนี้อย่างใกล้ชิดด้วยความสนใจอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกรุนแรงขึ้นในสังคม และบ้านเมืองยังคงเดินหน้าต่อไปได้ด้วยความสงบเรียบร้อยบนความเห็นต่าง ทั้งนี้ ในช่วงจากนี้ไป คาดหมายได้ว่าจะมีการจัดกระบวนทัพขนานใหญ่ของฝ่ายการเมืองเพื่อเผชิญศึกการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในรอบหน้าอย่างกระตือรือล้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการโยกย้ายสังกัดพรรคการเมือง การด้อยค่าคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง และการนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อสอบทานกระแสความนิยมของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ..อย่างไรก็ตาม ในประเด็นการใช้นโยบายประชานิยม และแนวความคิดในการล้มรื้อระบบการปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเสนอในเวทีสาธารณะโดยฝ่ายการเมืองบางกลุ่มนั้น บางครั้งก็สร้างความกังวลให้กับฝ่ายความมั่นคงด้วยเช่นกันว่า แต่ละประเด็นมีลักษณะคล้ายการโฆษณาชวนเชื่อ และไม่ส่งผลดีต่อความสามัคคีของประชาชนคนในชาติ รวมทั้งการมุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

ตัวอย่างการใช้ประชานิยมสุดโต่งของภาครัฐที่ทำให้ประเทศในเอเซียใต้ประเทศหนึ่งพบกับสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในระดับล้มละลายก่อให้เกิดการจลาจลที่มีการใช้ความรุนแรงจนเกือบทำประเทศต้องล่มสลายลง มีให้เห็นได้เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง ..การล้มรื้อระบบการปกครองส่วนท้องถิ่นก็เช่นกัน การนำเสนอที่ขาดความเข้าใจที่แตกฉานต่อสภาพภูมิสังคมของไทย อาจนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกรุนแรงไปทั่วทั้งระบบการปกครองบริหารบ้านเมืองโดยไม่มีตัวอย่างความสำเร็จมาก่อนที่ชัดเจน 

@@@…… ปัจจุบัน การบริหารราชการแผ่นดินของไทย เป็นรูปแบบผสมผสาน มีการดำเนินการภาครัฐด้วยแนวนโยบายรวมศูนย์การควบคุม กระจายการควบคุม รวมการปฏิบัติ และการประจายการปฏิบัติ ไปพร้อมด้วยให้เหมาะสมกับสภาพภูมิสังคมในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างอยู่แล้ว โดยฝ่ายปกครองเป็นตัวแสดงหลัก .. ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า ในโลกยุคปัจจุบัน และอนาคตนั้น การกระจายอำนาจ และการกระจายรายได้ กระจายความมั่งคั่ง และการกระจายความเจริญนั้น มิใช่ประเด็นปัญหาหลักของชาติ การกระจายความรู้ต่างหาก คือ ประเด็นสำคัญยิ่งยวดหลักที่ภาครัฐ และฝ่ายบริหาร จะละเลยไม่ได้จากนี้ไป หมายถึง การกระจายความรู้ และการให้ได้มาซึ่งความรู้ใหม่ๆ สำคัญกว่าการกระจายอำนาจ และสำคัญกว่าการกระจายรายได้ เพราะองค์ความรู้จะนำไปสู่อำนาจทางการเมือง และความมั่งคั่งที่เหนือชั้นกว่าได้  นอกจากนั้น ทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และความสามัคคีของประชาชาชนคนในชาติ คือ ประเด็นสำคัญที่สุดที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าสู่ความมั่นคง มั่งคั่งที่ยั่งยืนให้สำเร็จได้ในที่สุด

@@@……การเมืองจะไปทิศทางไหนรอดูต่อไป….พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก และคณะเจ้ากรมฝ่ายอำนวยการ เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยทหารพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ใน จ.พิษณุโลก, เชียงราย, เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน โดยเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 จากนั้นเข้ารับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของกองทัพภาคที่ 3 โดยเฉพาะภารกิจป้องกันชายแดน, การปรับวางกำลัง, การใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษที่กองทัพบกสนับสนุนเพื่อจัดระเบียบและควบคุมพื้นที่, การเข้มงวดไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน, การดูแลทหารกองประจำการ, การช่วยเหลือประชาชนจากสาธารณภัย รวมทั้งผลสำเร็จและการขยายผลโครงการทหารพันธุ์ดี ครอบคลุมทั้งพื้นที่ตอนในและพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 3 ได้รายงานการเตรียมภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันประจำปี 2566 ที่จะเริ่มรณรงค์ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้

@@@……ที่จ.เชียงใหม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางลงพื้นที่รับฟังข้อมูลผลการจับกุมยาเสพติดของกองกำลังผาเมือง ที่ฐานปฏิบัติการบ้านแปกแซม ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ที่หน่วยทหารได้ปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดและมีการปะทะ กับกลุ่มลำเลียงยาเสพติด เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 65 สามารถยึดยาไอซ์ 214 กก. ทั้งนี้เป็นผลมาจากการประสานข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ภายใต้นโยบายของกองทัพบก ที่มุ่งมั่นสกัดกั้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้กล่าวชมเชยกำลังพล ที่ได้ทุ่มเทสกัดกั้นยาเสพติดด้วยความตรากตรำและยากลำบาก ต้องใช้ความอดทนในการเฝ้าติดตาม โดยปรากฏผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง

@@@……นอกจากนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.พร้อมคณะ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานชายแดนไทย – เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังนเรศวรพร้อมเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลตามฐานปฏิบัติการบนพื้นที่สูง และช่องทางสำคัญตามแนวชายแดน โดยได้เดินทางไปที่ฐานปฏิบัติการไตแลง กองร้อยทหารราบที่ 1731 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 อ.เมือง และ ฐานปฏิบัติการน้ำเพียงดิน กองร้อยทหารราบที่ 713 อ.เมือง โดยเป็นการตรวจการณ์ทางเรือตามลำน้ำปายและจุดผ่อนปรนการค้าช่องทางน้ำเพียงดิน  ซึ่งฐานปฏิบัติการส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนสันเขา กำลังทหารได้เฝ้าตรวจ ลาดตระเวน รักษาความมั่นคงในพื้นที่ และภารกิจในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง พร้อมกับการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน 

@@@……ผบ.ทบ.ย้ำเรื่องการดูแลแนวเขตแดน ที่ต้องใช้กลไกความร่วมมือในทุกระดับ ภายใต้การพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับสภาพความเป็นอยู่ของกำลังพล การส่งกำลังบำรุง ทั้งสิ่งอุปกรณ์และอาหารเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง ด้านสุขภาพร่างกายที่กำชับให้หน่วยแพทย์ทหารในพื้นที่ให้การดูแลรักษา เนื่องจากกำลังพลอยู่ในพื้นที่ห่างไกล การบูรณาการด้านการแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ การทำให้พื้นที่ชายแดนมีความสงบสุขโดยประชาชนในพื้นที่ต้องมีส่วนร่วม ขอให้หน่วยชายแดนได้มีการฝึกอบรมประชาชนมีทักษะในเรื่องของการเฝ้าระวัง การสังเกต ร่วมกันเป็นหูเป็นตาควบคู่ไปกับการพัฒนาพื้นที่โดยหน่วยทหาร 

@@@……กองทัพเรือ…พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วย นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลทัพเรือภาคที่ 2 ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา โดยมี พล.ร.ท. จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ ผบ.ทร. ได้ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ พร้อมทั้งมอบโอวาทแก่กำลังพล ใจความว่า ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมาหน่วยกำลังรบของกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ด้วยความเข้มแข็งตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน จึงนับว่าเป็นตัวแทนของกองทัพเรือที่ได้สร้างชื่อเสียง จนเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนทั่วไป  ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจในภารกิจของทหารเรือดียิ่งขึ้น โดยจากการที่ผมได้ติดตามการปฏิบัติงานหน่วยงานของท่านอย่างใกล้ชิด ทำให้ทราบว่าท่านทั้งหลายสามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่ยอมรับและศรัทธาของพี่น้องประชาชน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆในพื้นที่เสมอมา แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

@@@……ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 2 มีภารกิจในการป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง โดยปัจจุบันมีศูนย์ปฏิบัติการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 2 ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ควบคุมชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านมาเลเซีย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยาน และเรือที่ประสบภัยในทะเล ทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ควบคุมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ประจำพื้นที่ ทัพเรือภาคที่ 2 และ ศูนย์ให้บริการด้านการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโรคติดต่อ Covid – 19 ประจำพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ  การจับกุมการลำเลียงยาเสพติดทางทะเล การป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid – 19การให้ความช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่าง ๆ

@@@……กองทัพอากาศ….พล.อ.อ. อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ประจำปี 2566 ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี โดยภายหลังพิธีเปิดการแข่งขันฯ กองทัพอากาศได้จัดให้มีการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศของฝูงบิน หน่วยรบ และส่วนสนับสนุน เพื่อให้หน่วยเกี่ยวข้องและประชาชนได้ประจักษ์ถึงคุณลักษณะ และขีดความสามารถของกำลังทางอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงของชาติ ตลอดจนการบรรเทาสาธารณภัย โดยมีการจำลองการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ อาทิ การบินตอบโต้ทางอากาศเชิงรุกและเชิงรับ, การบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศร่วมกับการปฏิบัติการทางไซเบอร์, การกดดันการป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึก, การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด, การลำเลียงทางอากาศ, การควบคุมไฟป่าร่วมกับการปฏิบัติการทางอวกาศ, การค้นหาช่วยชีวิตและการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศ ซึ่งปฏิบัติงานร่วมกับชุด Medical Emergency Response Team : MERT ของศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ทหารอากาศในการช่วยเหลือประชาชนกรณีประสบภัยพิบัติ 

@@@……นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง “ชุดสั่งการและควบคุมการปฏิบัติทางอากาศเคลื่อนที่” (Command Control Mobile : C2 Mobile) เพื่อรองรับกรณีที่มีการร้องขอการสั่งการและควบคุมการปฏิบัติทางอากาศในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ให้เกิดประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย โดยใช้ระบบบัญชาการและควบคุมทางอากาศ (Air Command and Control System : ACCS) เป็นเครื่องมือในการสั่งการและควบคุม ด้วยแนวคิดการปฏิบัติการใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations : NCO) ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ระบบข้อมูลการบัญชาการและควบคุม ระบบแสดงภาพสถานการณ์ทางอากาศ และระบบการติดต่อสื่อสารกับนักบินบนอากาศยาน ซึ่งชุดสั่งการและควบคุมการปฏิบัติทางอากาศเคลื่อนที่ดังกล่าว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย การอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นต้น

………………………………….

 คอลัมน์ “Military Key”

 โดย …“รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img