วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS‘อำนาจเผด็จการ’ ต่างกับ ‘อำนาจตามกฎหมาย’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘อำนาจเผด็จการ’ ต่างกับ ‘อำนาจตามกฎหมาย’

การชุมนุมยังไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเมือง แต่แกนนำพยายามบิดเบือนข้อมูลกล่าวหา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเป็นทรราช ใช้อำนาจเผด็จการ ในความเป็นจริงการใช้อำนาจเผด็จการแตกต่างกับการใช้อำนาจตามกฏหมายอย่างสิ้นเชิง

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์   https://thekey.news  ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ที่ผ่านมาจะมีการจัดกิจกรรมของกลุ่มเห็นต่างฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ปรากฏภาพความรุนแรงจากกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ทําให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มฯ ถูกมองในแง่ลบมากขึ้น 

@@@……อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งล่าสุดที่แยกราชประสงค์ กลุ่มผู้ชุมนุม ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการโดยกลับมาใช้วิธีการตั้งเวทีปราศรัยอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงตั้งข้อสังเกตว่าในการปราศรัยของแกนนําส่วนใหญ่ เป็นการอ่านข้อความผ่านทางสมาร์ทโฟน ที่ผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรียบเรียงส่งให้ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการบิดเบือนให้ร้ายและจาบจ้วงสถาบันฯ เป็นสําคัญ ซึ่งขณะนี้สังคมส่วนใหญ่มีความไม่พอใจในกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งมีกระแสต่อต้านมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์จํานวน มาก และมีแนวโน้มว่าจะทวีจํานวนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

cr : FB Warong Dechgitvigrom

@@@……การที่แกนนำอ่านข้อความที่เรียบเรียงผ่านโทรศัพท์แสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง ไม่ทราบว่าคนบงการต้องการให้คนอ่านข้อความนั้นต้องถูกจองจำในคุกใช่หรือไม่ หรือแม้แต่การอดอาหารองนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ก็ตาม ซึ่งดูเหมือนจะอ่อนแรงลงแล้ว ความต้องการของผู้อยู่เบื้องหลังอาจจะอยากเห็นให้มีผู้ต้องขังบางคนตายในคุกหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลอย่างยิ่ง ประกอบกับเป็นห่วงเรื่องที่อัยการชะลอการฟ้องคดีไปถึงเดือนหน้า แม้ว่าการชุมนุมจากนี้ไปดูเหมือนจะเป็นการชุมนุมตั้งเวทีปราศรัยดูเหมือนจะเรียบร้อยขึ้นเหมือนที่ผ่านมาก็จริง แต่ไม่มีทางประกันได้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดความรุนแรงขึ้น เนื่องจากการชุมนุมที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้ยังเห็นการ์ดที่มีการเตรียมอาวุธ และการจับกุมไบร์ทบอมแสดงให้เห็นว่าเป็นตัวชี้วัดว่าความรุนแรงกำลังจะมา ดังนั้นการชะลอการฟ้องไปจนถึงกลางเดือนหน้าจึงเป็นเรื่องซึ่งฝ่ายความมั่นคงกังวลอย่างยิ่ง   

@@@……สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่ามีการนำศิลปะมาใช้ในการเสียดสี เหยียดหยามทางการเมือง การนำศิลปะมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้นสามารถทำได้ แต่ไม่ควรอยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัยของรัฐ การดำเนินการของรมว.อุดมศึกษา และคณบดี กับอธิการบดี ทำได้ถูกต้องแล้วตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งฝ่ายความมั่นยังเชื่อว่าศิลปินส่วนใหญ่ไม่ชอบการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่สกปรก การจะเอาการเมืองมาผูกพันกับศิลปะจะทำให้ศิลปะนั้นมีสภาพที่ไม่สะอาดและอาจไม่ถูกเรียกว่าเป็นศิลปะอีกต่อไป สำหรับอาจารย์บางท่านที่สั่งสอนให้นิสิต นักศึกษา ล้มรัฐ ล้มเจ้า ล้มศาสนา ก็ไม่ควรจะมาสั่นสอนนิสิต นักศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของภาครัฐควรจะไปดำเนินการนอกรั้วมหาวิทยาลัย หรือไม่ควรจะเข้าทำงานเป็นข้าราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานการศึกษาของภาครัฐอีกต่อไป 

cr / www.thaigov.go.th

@@@…… ฝ่ายความมั่นคง เฝ้าสังเกตการชุมนุม พบการบิดเบือนกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เป็นทรราช ใช้แต่อำนาจเผด็จการ ซึ่งเป็นการพูดเลื่อนลอยซ้ำ ๆ ให้ติดหูนั้น ในประเด็นการใช้อำนาจเผด็จการแตกต่างกับการใช้อำนาจตามกฏหมายอย่างสิ้นเชิง ฝ่ายความมั่นคง ค่อนข้างกังวลกับกระแสบิดเบือนข้อเท็จจริง เนื่องเพราะการบังคับใช้กฏหมาย เป็นเรื่องสำคัญ อำนาจเผด็จการ กับการใช้อำนาจตามกฏหมาย หากแยกไม่ออกก็จะเกิดการเข้าใจผิด วิธีคิด วิธีกำหนดนโยบาย รวมทั้งการปฏิบัติของภาครัฐ ยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยอย่างแน่นอนไม่มีข้อสงสัย ไม่มีการใช้อำนาจตามอำเภอใจอย่างแน่นอน 

@@@……การชุมนุมผิดกฏหมาย ระดมคนมาตีกัน อาจเป็นความต้องการของใครบางกลุ่มซึ่งจะได้รับประโยชน์จากจลาจล ความรุนแรงในประเทศ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่เอื้อประโยชน์ให้ตนเองเท่านั้น มิได้เพื่อประชาชนคนทั้งชาติแต่อย่างไร กฏหมู่ที่ชอบใช้กำลังต่อยตีไม่สามารถเรียกมันว่าเป็นประชาธิปไตยได้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ และหวังให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในชาติเพื่อจะสามารถพัฒนาชาติให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่ต้องล่มสลายไปเหมือนที่เกิดขึ้นกับบางประเทศที่เรามองเห็นได้มาแล้ว

@@@……กลับมาที่ภารกิจกองทัพ พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึง เหตุการณ์ลอบยิงฐานปฏิบัติการบ้านไอร์กือเนาะ อ.ศรีบรรพต จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2564  เป็นเหตุให้ อาสาสมัครทหารพราน สกล ปัญญา ตำแหน่ง พลปืนเล็ก กองร้อยทหารพรานที่ 4906 กรมทหารพรานที่ 49 ปฏิบัติหน้าที่ ราชการสนามในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์  จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2564 โดยก่อนหน้านี้ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เคยเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ อาสาสมัครทหารพราน สกล พร้อมให้กำลังใจกับญาติมาก่อนแล้ว

@@@……หลังการเสียชีวิต ทางครอบครัวได้แจ้งถึงเจตจำนงค์ของอาสาสมัครทหารพราน สกล ปัญญา  ที่ประสงค์บริจาคอวัยวะของตนเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อื่น จึงได้ดำเนินการบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย (โรงพยาบาลสงขลานครินทร์) ได้นำไปปลูกถ่ายเพื่อการรักษาโรคให้กับผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต, โรคหัวใจ และโรคดวงตา ที่รอรับการบริจาคอวัยวะได้ถึง 6 รายเป็นที่เรียบร้อย นำมาซึ่งการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วยดังกล่าว นับเป็นตัวอย่างแก่กำลังพลและเป็นคนดีของสังคม ในการมีหัวใจแห่งการเสียสละและการเป็นผู้ให้ ตามนโยบายของกองทัพบกในเรื่องการส่งเสริมคนดี สนับสนุนให้กำลังพลทำความดี มีจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวม

@@@…… พล.อ. เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย  พล.อ.อ. แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.อ.ชูชาติ  บัวขาว รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. ธีรวัฒน์  บุณยะวัฒน์ รองผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2564 บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดลอยลำอยู่ในพื้นที่ทะเลอันดามัน บริเวณจังหวัดภูเก็ต โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย  ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ร.อ. สิทธิพร  มาศเกษม รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564   ให้การต้อนรับ 

@@@……จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เชิญ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ฟังบรรยายสรุปการฝึกก่อนจะขึ้นชมการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น แบบ HARPOON BLOCK 1C  โดยเรือหลวงตากสิน  และการฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ  (LINK – E) ต่อมาผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปยังดาดฟ้าบินของเรือหลวงจักรีนฤเบศร เพื่อให้โอวาทกำลังพลในส่วนต่าง ๆ ที่เข้ารับการฝึก ประกอบด้วย เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ เรือหลวงทยานชล เรือหลวงศรีราชา เรือ ต. 992  เรือ ต.995 และ เรือ ต.996 

@@@……กองทัพเรือ ได้ตระหนักในหน้าที่หลัก ด้านการเตรียมความพร้อมของกำลังรบทางเรือ เพื่อการป้องกันประเทศ โดยการพัฒนากำลังพลและระบบยุทโธปกรณ์ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติการทางทหาร ในฐานะหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงทางทะเลของประเทศไทย ในการเตรียมกำลังให้เกิดความพร้อมเพื่อปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศผ่านการฝึก ทั้งนี้ กองทัพเรือได้กำหนดให้หน่วยกำลังรบในทุกระดับ ดำเนินการเตรียมความพร้อมในระดับหน่วยตามความเชี่ยวชาญเฉพาะของกิจที่ได้รับ จนถึงการบูร ณาการกำลังขนาดใหญ่เข้าด้วยกันเพื่อฝึกการปฏิบัติการภายใต้สถานการณ์การฝึกตามแผนป้องกันประเทศในแต่ละด้าน โดยกำหนดแนวคิดหลักอ้างอิงจากสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดไว้ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ซึ่งนอกจากจะเป็นการ    เตรียมความพร้อมของกำลังรบในการปฏิบัติการแล้ว การฝึกกองทัพเรือยังเป็นการทดสอบแผนการปฏิบัติ ระบบการควบคุมการบังคับบัญชา ระบบการสื่อสารและระบบการส่งกำลังบำรุงในภาพรวม ตลอดจนเป็นการทดสอบการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพอีกด้วย 

………………..

คอลัมน์ “Military Key” 

โดย “รหัสมอร์ส” 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img