นอกจาก นโยบายเศรษฐกิจ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ พรรคการเมือง นำมาเป็นจุดขายในการเลือกตั้ง นั่นคือ “ทีมเศรษฐกิจ” ใครเป็นตัวจริง-เสียงจริง เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากประชาชน แต่เที่ยวนี้ขอตรวจแถวทีมเศรษฐกิจแต่ละพรรคเป็น “น้ำจิ้ม” ไปก่อน หากนโยบายมีความชัดเจน ค่อยมาชำแหละ ว่านโยบายไหนเพ้อฝันนโยบายไหนทำได้อีกที
“พรรคเพื่อไทย” โชว์ความพร้อมด้วยการเป็นพรรคแรกที่นำเสนอแพ็คเก็จ “คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ” หรือ “ทีมเศรษฐกิจ” ประกอบด้วย “พันศักดิ์ วิญญรัตน์” ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ “ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ” นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ เชี่ยวชาญเศรษฐกิจมหภาคและตลาดทุน “ดร.ปานปรีย์ มหิทธานุกร” อดีตผู้แทนการค้าไทย
“เศรษฐา ทวีสิน” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีเครือข่ายธุรกิจกว้างขวางและคอนเน็กชั่นในแวดวงธุรกิจไม่ธรรมดา “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมี “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยะเดช” อดีตรมว.พลังงาน คนที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เชื่อมือและเชื่อใจเป็นประธานฯ
โปรไฟล์แต่ละคน ล้วนระดับ “บิ๊กเนม” ในวงการเมืองและเศรษฐกิจ
ขณะที่ “พรรคก้าวไกล” เปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรค หลักๆมี “น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจของสภา และมักอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจและการผูกขาดของกลุ่มทุนได้อย่างเฉียบคมและข้อมูลแน่นปึก “วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร” รองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้านนโยบายสาธารณะ แห่งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำงานวิจัยเรื่องเสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย และกับดักรายได้ปานกลาง โดยจะมาผลักดันเรื่องซัพพลายเชนอุตสาหกรรมไฮเทคโลกคนนี้มือร่างนโยบายเศรษฐกิจตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่
“สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล” กรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi มีความเชี่ยวชาญเรื่อง SME “อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล” เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยหรือ “ซอฟต์ พาวเวอร์” “ดร.เดชรัต สุขกำเนิด” ผอ.ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ของพรรคก้าวไกล อดีตอาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ ที่เดินทางไปสัมผัสชีวิตเกษตรกรไทยเพื่อหาข้อมูลทั่วประเทศ
ส่วน “พรรคพลังประชารัฐ” ล้วนมือเก๋าและเก่าผ่านการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วเป็นส่วนใหญ่ มี “อุตม สาวนายน” อดีตรมว.อุตสาหกรรม และรมว.คลัง “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีตรมว.พลังงาน “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” อดีตรมช.แรงงงาน ที่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยง “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” อดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เชี่ยวชาญการเงิน การคลัง “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” อดีตรมว.พาณิชย์ และ “ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี” นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่เคยทำงานการเมือง
ไล่ๆ กันนั้น “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ก็เปิดตัวทีมเศรษฐกิจเช่นกัน ประกอบด้วย “ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” นักเศรษฐศาสตร์รุ่นเก๋า เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพลังงาน จะมาดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน “ม.ล.ชโยทิต กฤดากร” ที่ปรึกษานายกฯ ทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย มือวานิชธนกิจระดับแนวหน้าทำหน้าที่หัวหน้าทีม แต่หัวหน้าทีมตัวจริงเสียงจริงน่าจะเป็น “สุพัฒน์พงษ์” คนที่ “ลุงตู่” ไว้ใจมากที่สุด
หากเอ็กซ์เรย์ดูเนื้อในทีมเศรษฐกิจจากพรรคการเมืองที่เปิดตัวมา 4 พรรค ต้องบอกว่า ในแง่ชื่อเสียงนั้น “ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย” ดูจะได้เปรียบเป็นที่รู้จักมากกว่า เคยบริการประเทศมาแล้ว ส่วน “ทีมเศรษฐกิจก้าวไกล” นั้นต้องบอกว่า คนทั่วไปจะคุ้นบ้างน่าจะเป็น “ศิริกัญญา” ที่มีบทบาทในการอภิปราย แต่บทบาทการบริหารยังไม่เป็นที่ประจักษ์ แต่หากฟังแนวคิดในวันเปิดตัว นับว่าน่าสนใจไม่น้อย
ส่วน “ทีมเศรษฐกิจพลังประชารัฐ” ส่วนใหญ่ล้วนเคยผ่านการเป็นรัฐมนตรีบริหารประเทศมาแล้วทุกคน ต่างยุคต่างสมัยกันเท่านั้น ผลงานอดีตยังไม่โดดเด่นจนเป็นที่ประทับใจ แถมยังมีคำถามโยบายเศรษฐกิจของพรรคหลายๆนโยบายแต่เมื่อเป็นรัฐบาลไม่สามารถผลักดันนโยบายพรรคให้เป็นผลงานได้ หรือการบริหารเศรษฐกิจในช่วงเกิดโควิด 19 ระบาดใหม่ๆยังเป็นที่กังขา
ในส่วนทีมเศรษฐกิจ“ทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ” คนที่จะมีบทบาทอย่าง “สุพัฒนพงษ์” ก็พิสูจน์ฝีมือแล้วทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและพลังงาน ที่กำลังเป็นปัญหาแก้ไม่ตก อย่างค่าไฟฟ้า ขณะที่ “ชโยทิต” หัวหน้าทีมก็ยังไม่มีผลงานโดดเด่น “ดร.ไตรรงค์” ก็เป็นนักเศรษฐศาสตร์รุ่นเก่า ส่วนคนหนุ่มๆ ในทีม ก็ยังไม่เคยแสดงบทบาทต่อสาธารณะ
ที่น่าสนใจ “พรรคพลังประชารัฐ” และ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” โครงสร้างทีมเศรษฐกิจคล้ายๆ กันคือ เป็นมือเศรษฐกิจรุ่นเก่า แม้จะเคยผ่านงานบริหารประเทศในฐานะ “รัฐมนตรี” มาแล้ว แต่ก็มีคำถามในเรื่องฝีไม้ลายมือไม่น้อย ว่าจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะนำพาประเทศพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจของโลกและของไทย รวมถึงจะก้าวตามโลกยุคใหม่ที่เป็น “ดิจิตอล อีโคโนมี” ได้หรือไม่???
ฉะนั้น หากฟันธงในแง่ตัวบุคคลากร “ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย” น่าจะเหนือกว่าพรรคอื่นๆ แต่หากดูแนวคิดการทำงานแบบคนรุ่นใหม่ที่กล้าคิดนอกกรอบ มีไอเดียใหม่ๆ ก็ต้องให้ “ทีมเศรษฐกิจก้าวไกล”
อย่างไรก็ตาม ในความเห็นภาคเอกชนเท่าที่สำรวจตรวจสอบ ส่วนใหญ่อยากได้ทีมเศรษฐกิจที่เป็น “คนเศรษฐกิจจริงๆ” มีความเป็นมืออาชีพ เข้าใจปัญหา และออกนโยบายที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งสิ่งที่อยากเห็นคือ การทำให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง มีการพัฒนา ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ตลอดเวลา
ที่สำคัญ ต้องการทีมเศรษฐกิจที่มีทัศนคติ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก เปิดกว้างในเรื่องของธุรกิจระหว่างประเทศ รวมถึงต้องมีการวางกลยุทธ์ระหว่างประเทศ ส่งเสริมไทยในเรื่องของการเพิ่มเขตการค้าเสรีให้มากขึ้น
นี่คือ ทีมเศรษฐกิจที่ประชาชนอยากเห็น แต่ทีมเศรษฐกิจก็เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจ แต่นโยบายก็ต้องดีด้วย จึงจะมัดใจประชาชนได้
……………………………..
คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง
โดย “ทวี มีเงิน”
สนับสนุนคอลัมน์ โดย : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
