วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกNEWS“ทาคูนิ” บุกธุรกิจมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้ารับเทรนด์รักษ์โลก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทาคูนิ” บุกธุรกิจมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้ารับเทรนด์รักษ์โลก

“ทาคูนิ” จับมือ “อี้หาวมอเตอร์” ลงทุนธุรกิจมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้ารับเทรนด์รักษ์โลก ตั้งเป้ายอดขาย 5 พันคัน พร้อมดึง “ชาติชาย”นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ด

นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทใหม่ โดยแต่งตั้งนายชาติชาย พยุหนาวีชัย เป็นประธานกรรมการบริษัทและเป็นประธานกรรมการบริหาร เพื่อรองรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ


เนื่องจากทุกประเทศหันมาให้ความสนใจในพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของโลก ทำให้ทุกประเทศมีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนการใช้รถมอเตอร์ไซด์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องโลกร้อน และที่สำคัญรถไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าใช้น้ำมัน ทำให้รัฐบาล ของแต่ละประเทศมีการสนับสนุนค่าใช้จ่าย เช่น ในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไต้หวัน

ทั้งนี้ปัจจุบันในประเทศไทยมีจำนวนรถมอเตอร์ไซด์รวมกันราว 25 ล้านคัน หากในอีก 10 ปีข้างหน้ามีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 2.5 ล้านคัน ซึ่งหากมีส่วนแบ่งตลาดตรงนี้ 5-10% เท่ากับมียอดขายถึง 1.5-2.5 แสนคัน
เช่นเดียวกับในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซียที่ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซด์มีจำนวนมาก และไต้หวันก็มีถึง 4 แสนคันที่ต้องปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า

โดยล่าสุด บริษัทได้มีการร่วมลงทุนและถือหุ้น 40% ในบริษัทอี้หาวมอเตอร์ (Yihao motor) เป็นบริษัทชั้นนำของไต้หวัน และได้พาร์ทเนอร์ กับบริษัท Ritek ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน เพื่อพัฒนาและผลิตมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถยกออกจากรถมอเตอร์ไซด์ เพื่อนำไปชาร์ตกับไฟฟ้าภายในบ้านได้

สำหรับการผลิตมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ จะดำเนินการผลิตที่โรงงานในไต้หวัน โดยบริษัทวางแผนผลิตและออกจำหน่ายในไต้หวันภายในไตรมาส 1ของปีหน้า โดยล่าสุดรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าของบริษัทได้ผ่านการทดสอบ และได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไต้หวันให้สามารถขอป้ายทะเบียนรถ เพื่อให้วิ่งบนถนนได้ ซึ่งบริษัทคาดว่าภายในเร็วๆนี้ จะสามารถขายรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าได้ประมาณ 50,000 คัน

การผลิตมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไต้หวัน ที่จะเปลี่ยนมอเตอร์ไซด์ที่ใช้น้ำมันให้เป็นมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี 2035 พร้อมทั้งยังให้การสนับสนุนในการซื้อรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า คันละ 20,000 – 22,000 ดอลลาร์ไต้หวัน จึงทำให้ไต้หวันมีการพัฒนารถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานของตัวเองเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ

“ ไต้หวันจะมีบริษัทผลิตรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าถึง 8 บริษัท แต่จุดเด่นของทาคูนิคือแบตเตอรี่ ที่สามารถถอดออกไปชาร์ตไฟในบ้านได้ เป็นการช่วยแก้ปัญหาในการหาที่ชาร์ตไฟ เนื่องจากคนขับมอเตอร์ไซด์ที่ไต้หวันส่วนใหญ่จะอาศัยในอพาร์ตเมนต์ คู่แข่งรายอื่นๆ แก้ปัญหาโดยการตั้งสถานีสลับแบตเตอรี่ ซึ่งต้องเสียค่าไฟฟ้าให้กับบริษัทคู่แข่งเกือบเทียบเท่าค่าน้ำมัน แต่ถ้าลูกค้าดึงแบตเตอรี่ไปชาร์ตเองที่บ้าน จะประหยัดได้ถึง 10 เท่าของค่าน้ำมัน”


สำหรับในประเทศไทย บริษัททาคูนิ จะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนสำคัญจากไต้หวันเพื่อมาประกอบรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า โดยจะมีการร่วมมือกับพันธมิตร (partner)ที่เป็นโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซด์ชั้นนำของไทย

นอกจากนี้ บริษัท ทาคุนิ ยังได้เซ็นสัญญาร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท Sersol ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหลักหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมทุนในการพัฒนาและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า และสถานีชาร์ตไฟฟ้าในประเทศไทยและมาเลเซียจะจัดตั้งบริษัท บริษัท Sersol Takuni (M) ในประเทศมาเลเซีย บริษัท ทาคูนิ ถือหุ้น 49%

บริษัท Sersol ถือหุ้น 51% และตั้ง บริษัท Sersol Takuni (Thailand) ในประเทศไทย บริษัท ทาคูนิ ถือหุ้น 51% บริษัท Sersol ถือหุ้น 49% ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งบริษัทจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ และสามารถเริ่มดำเนินงานได้ในต้นปี 2566

อย่างไรก็ตาม ปีหน้ากลุ่มทาคูนิมีความพร้อมอย่างมากในการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าทั้งในประเทศไทย ไต้หวัน มาเลเซียและอินโดนีเซียรองรับการปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศต่างๆ ไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาโลกร้อน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img