วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกNEWSเกษตรกรเฮ ! พาณิชย์โอนเงินประกันรายได้ข้าวงวดสุดท้าย 31 พ.ค.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เกษตรกรเฮ ! พาณิชย์โอนเงินประกันรายได้ข้าวงวดสุดท้าย 31 พ.ค.นี้

พาณิชย์ไฟเขียวประกันรายได้เกษตรกรงวดที่ 33 ซึ่งเป็นงวดสุดท้าย ข้าวเปลือกราคายังทรงตัวในเกณฑ์สูงคาดโอนเงินวันที่ 31 พ.ค.นี้ ขณะที่หลายประเทศเผชิญเอลนีโญ ทำให้เกิดภัยแล้งส่งผลให้ความต้องการข้าวเพิ่มมากขึ้น


นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์

โดยสัปดาห์นี้เป็นการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงงวดสุดท้าย งวดที่ 33 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2566 ปรากฏว่า ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 13,671.28 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 328.72 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,259.52 บาท

สำหรับข้าวเปลือกปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าราคาประกัน จึงไม่มีส่วนต่างชดเชยในงวดนี้ โดยข้าวเปลือกปทุมธานี มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 11,252.18 บาท ข้าวเปลือกเจ้า มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 10,216.69 บาท และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 12,734.33 บาท สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้การที่ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ดีในระดับที่สูงกว่าราคาประกัน จนไม่มีส่วนต่างชดเชย ส่งผลให้รัฐบาลจ่ายชดเชยส่วนต่างน้อยลง ช่วยให้ประหยัดงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการได้อีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่สถานการณ์การซื้อขายข้าวในตลาดช่วงนี้ ผู้แทนสมาคมโรงสีข้าวไทย และผู้แทนสมาคมค้าข้าวไทย
ให้ข้อมูลว่า ผู้ส่งออกมีความต้องการข้าวเจ้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศอิรัก และอินโดนีเซีย สำหรับสถานการณ์การส่งออก ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศให้ข้อมูลว่า ปริมาณการส่งออกจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 สามารถส่งออกข้าวได้แล้วกว่า 3.27 ล้านตัน และน่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ทำให้เกิดภัยแล้ง ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตในหลายประเทศลดลง ทำให้มีความต้องการข้าวเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ราคาข้าวในภาพรวมค่อนข้างทรงตัว มีขยับขึ้นลงบ้างตามค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย สถานการณ์การส่งออกของไทยเป็นไปได้ด้วยดี เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องในทุกชนิดข้าว ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว คาดการณ์ว่าในปีนี้มีโอกาสที่จะส่งออกข้าวได้มากกว่าปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะส่งออกได้ถึง 8 ล้านตัน


อย่างไรก็ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในงวดที่ 1 – 32 ที่ผ่านมามีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วกว่า 2.636 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,867.02 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป


สำหรับการค้าข้าว ขอความร่วมมือเกษตรกร โรงสี ผู้ค้า และหน่วยงานในพื้นที่กำกับดูแลและเพิ่มการตรวจสอบ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการปลอมปนข้าว เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพข้าว และการส่งออกข้าวได้ นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img