“ธรรมนัส”ยันปรับครม.โควต้าพปชร.ยังส่ง “ไผ่ ลิกค์”เหมือนเดิม ยืนยันการทำงานร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีปัญหา ทำงานด้วยกันดีมาตลอด ขณะที่ “ไชยา”ชี้ 7 เดือนยังเร็วเกินไปในการปรับครม.ลั่น “กระทรวงเกษตรฯ”ควรเป็นของพรรคเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีการปรับ ครม. ในส่วนของโควต้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร แต่ทางพรรคยืนยันเหมือนเดิมว่าจะส่งชื่อ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ส่วนจะผ่านหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องวางตัวสำรอง ซึ่งตนได้หารือกับหัวหน้าพรรคแล้ว ว่า ให้รอสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าจะส่งชื่อนายไผ่เหมือนเดิม ยืนยันหากไม่ผ่านหรือมีปัญหาข้อก.ม.หัวหน้าพรรคคงเตรียมสำรองไว้แล้ว ส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีอะไรต้องปรับ แต่อาจจะมีรัฐมนตรีช่วยฯ ไปช่วยอีกคน อยู่ที่อำนาจของนายกรัฐมนตรีว่าจะส่งใคร ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคพลังประชารัฐ ตนทำงานได้กับทุกคน ยืนยันว่า การทำงานร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีปัญหาอะไรกันเลยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ทำงานด้วยกันดีมาตลอด
ขณะที่น.ส. พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะนี้ภายในพรรคยังไม่มีการส่งสัญญาณมาแต่อย่างใด ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติ
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่มีชื่อของตนออกมาว่าจะไปนั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นั้นเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ตนทำงานที่กระทรวงคมนาคมก็มีความพึงพอใจ ส่วนการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่พบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นการไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพ มีทั้งส.ส. และประชาชน ไปร่วมงานจำนวนมากจึงไม่เหมาะที่จะคุยเรื่องงาน ส่วนหากต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ขออย่าพึ่งไปคาดเดาอย่างที่ตนบอกว่าขณะนี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็มีงานที่เป็นที่พึงพอใจอยู่แล้ว
นายไชยา พรหมมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้หวั่นไหวอะไร คิดว่า 7 เดือนที่ผ่านมาทำหน้าที่ตามกรอบ ตามข้อจำกัดของงบประมาณ ฉะนั้นคิดว่า หากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่แล้วตนก็ไม่ขัดข้อง แต่คิดว่าเรามีการขับเคลื่อนในฐานะพรรคแกนนำ คือพรรคเพื่อไทย แม้ว่ากระทรวงเกษตรฯ จะประกอบรัฐมนตรีที่มาจากพรรคต่างๆ แต่การทำงานไม่มีอุปสรรค ระยะแรกอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่กว่าจะลงตัว กว่าจะเป็นทีมเดียวกันหลายคนก็ทราบ หลังจากนี้ งบประมาณผ่านสภาไปแล้ว การทำงานจากนี้ก็จะเป็นช่วงการวัดผลว่า จะเป็นไปตามนโยบายหรือไม่ เพราะฉะนั้นเรื่องข่าวการปรับครม.ก็แล้วแต่นโยบายของผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณมา ตนก็ทำหน้าที่ เพราะมีตารางงานที่วางแผนไว้แล้ว ส่วนตอนที่ไปเชียงใหม่ แค่ไปรดน้ำดำหัวท่านทักษิณ ตนเป็นนักการเมือง ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น ห่วงแค่ว่าหากปรับครม.แล้วเรา วางเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์แก้ไขปัญหาของประชาชน ดังนั้นถ้าจะปรับครม.กระทรวงเกษตรต้องอยู่กับพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าการปรับครม. เร็วเกินไป เนื่องจากเราเพิ่งเข้ามา 7 เดือน งบประมาณ ที่เราใช้ไปพรางก่อนเป็นงบประจำ เป็นเงินเดือนค่าตอบแทน แต่งบลงทุนเราแทบไม่ได้ขับเคลื่อน
ด้านน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เรื่องปรับครมเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี พิจารณาว่าใครเหมาะสม ซึ่งส่วนตัวไม่ได้รับสัญญาณใดๆจากนายกรัฐมนตรี
