วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกNEWSเกษตรกรเฮ ! พาณิชย์เคาะส่วนต่างประกันรายได้ข้าวงวด 21
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เกษตรกรเฮ ! พาณิชย์เคาะส่วนต่างประกันรายได้ข้าวงวด 21

กรมการค้าภายในเคาะประกันรายได้ข้าวงวด 21 สำหรับเกษตรกรแจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 25 ก.พ.-3 มี.ค. คาดโอนเงินให้เกษตรกรในวันที่ 9 มี.ค.นี้

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 21 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 25 ก.พ.- 3 มี.ค. 66 ปรากฏว่า ข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกพื้นที่ มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 13,630.87 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 369.13 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,906.08 บาท

ข้าวเปลือกปทุมธานี มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 10,968.84 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 31.16 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 779.00 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 9,956.36 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 43.64 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 1,309.20 บาท

ข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 12,255.26 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาประกัน จึงไม่มีส่วนต่างชดเชยในงวดนี้

สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์งวดที่ 21 ในวันที่ 9 มีนาคม 2566  

นอกจากนี้ผู้แทน สมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมค้าข้าวไทย ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ราคาข้าวภายในประเทศโดยส่วนใหญ่ยังทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ในส่วนของสถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยนั้น เริ่มจะส่งออกได้มากขึ้นจากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาทที่เริ่มจะมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงการที่อิรัก ยังมีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง และอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ที่ยังมีความต้องการสำรองข้าวไว้บริโภคภายในประเทศ และจากการที่ประเทศคู่แข่งของไทย เช่น เวียดนาม ที่มีการชะลอการส่งออก ทำให้การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะสามารถส่งออกได้มากกว่าปีที่ผ่านมา 

สำหรับงวดที่ 1-20 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วจำนวน 2.606 ล้านครัวเรือน จำนวน 7,855.28 ล้านบาท และ การช่วยเหลือไร่ละพันบาท เกษตรกรได้รับเงินแล้วกว่า 4.631 ล้านครัวเรือน จำนวน 53,942.61 ล้านบาท ส่วนเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป  

ทั้งนี้กรมฯได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่า ท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการ เอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img