ตลาดหุ้นไทยร่วง 12.14 จุด สอดคล้องในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่แดงยกแผง โดยนักลงทุนเทขายหุ้นบิ๊กแคป ทั้งโรงไฟฟ้า-ค้าปลีก-สื่อสาร จากแรงกดดันพรรคการเมืองเดินหน้าจำกัดทุนขนาดใหญ่-ปรับลดค่าไฟ
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,521.40 จุด ลดลง 12.14 จุด หรือ 0.79% โดยดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,536.76 จุด ต่ำสุด 1,521.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48,236.63 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยร่วง ตามตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ที่แดงยกแผง
สำหรับกลุ่มที่กดดันดัชนีหลักๆ คือ กลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า เช่น GULF, GPSC, BGRIM รองลงมาคือ กลุ่มค่าปลีก เช่น MAKRO, CPALL CRC กลุ่ม ICT เช่น TRUE โดยรวมประเมินยังมีแรงกดดันจากนโยบายของพรรคการเมืองเดินหน้าจำกัดกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และปรับลดค่าไฟ
สำหรับหุ้นที่เคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม ซึ่งกลุ่มที่ดันดัชนี คือ กลุ่มธนาคาร เช่น TTB, SCB กลุ่มประกันชีวิต อาทิ TLI ตอบรับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวานที่ 0.25% จากระดับ 1.75% มาอยู่ที่ 2% อย่างไรก็ตาม ประเมิน SET Index วันพรุ่งนี้แกว่งตัวในกรอบ แนวต้านแรกที่ 1,541 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,548จุด แนวรับแรกที่ 1,527 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,518 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,247.67 ล้านบาท ปิดที่ 98.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,532.05 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,519.65 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 2.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,510.37 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,248.83 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
