วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกNEWSจะเกิดอะไร..ถ้าสายพันธุ์‘เดลต้า-เบต้า’ เข้ามาเป็น‘โควิดสายพันธุ์หลักในไทย’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จะเกิดอะไร..ถ้าสายพันธุ์‘เดลต้า-เบต้า’ เข้ามาเป็น‘โควิดสายพันธุ์หลักในไทย’

“หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถาม…จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสายพันธุ์เดลต้า-สายพันธุ์เบต้า เข้ามาเป็นโควิดสายพันธุ์หลักในประเทศไทย โดยที่สายพันธุ์ปกติยังควบคุมไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะพบการแพร่ระบาดเร็ว ไม่สามารถสืบหาต้นตอได้ อีกทั้งยังพบมีผู้ป่วยรอเข้าไอซียู แต่เข้าไม่ได้เพราะเตียงเต็มยังมีอีกมาก

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย แสดงความเห็นเรื่อง “สงครามโควิด : ทำไมต้องบุกเร็ว-แรง” ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาว่า…จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีสายเดลต้า หรือเบต้า เข้ามาเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศไทยโดยที่สายพันธุ์ปกติยังควบคุมไม่ได้ด้วยซ้ำ

•ทำไมเราต้องบุกเร็ว-แรง?
ความสามารถในการแพร่กระจายของโควิดเก่งขึ้นเรื่อยๆ ตามการผันตัวของรหัสพันธุกรรมในตำแหน่งสำคัญที่เอื้ออำนวยให้มีการติดเชื้อเก่งขึ้น สร้างไวรัสปริมาณมากขึ้น และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเก่งขึ้น ประกอบกับความเบื่อบ้าง ความไม่ใส่ใจวินัย รวมทั้งจากความจน ความท้อแท้ ของคน ความหดหู่สิ้นหวัง

•ทำไมว่ามีสายที่เก่งขึ้นในไทยแล้ว?
สายเดลต้า (อินเดีย) ที่พบที่หลักสี่ 21 พฤษภาคม และเป็นในชุมชนแล้ว (แม้จะเป็นในแคมป์คนงาน) ต้องถือว่าเป็นการแพร่ทั่วไปแล้ว เพราะไม่สามารถสืบทั้งต้นตอ และทิศทางการแพร่กระจายได้ชัดเจน และทางการประกาศยืนยันในเวลาต่อมาว่ากระจายทั่วไปจริง

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมสายเบต้าหรือแอฟริกาที่พบในลักษณะเดียวกันในภาคใต้ในชุมชนเช่นกันที่ควรจะรุนแรงมากกว่า และจากที่ห้องปฏิบัติการของเราพบสายเดลต้าเนิ่นนานจากตัวอย่าง 13 พฤษภาคม แล้ว

•ทำไมวัคซีน ต้อง 2 เข็ม ในเวลาสั้นที่สุด?
การดึงวัคซีนเข็มที่สองให้ห่างออกไป เป็นจากเหตุผลของการไม่มีวัคซีนเป็นประการสำคัญ แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีสายของไวรัสที่พิสูจน์แล้วว่า สามารถหลบเลี่ยงวัคซีนได้เก่งมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ปฎิเสธไม่ได้ว่าเข็มที่สอง เช่นจากแอสตร้า ต้องติดกับเข็มที่หนึ่ง ในเวลาสองเดือนด้วยซ้ำ และวัคซีนเชื้อตายไม่ว่าชิโนแวค ชิโนฟาร์ม ควรต้องเป็นในเวลาสามถึงสี่สัปดาห์ เพื่อพยุงให้ระดับภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งไวรัสได้ (neutralizing antibody) อยู่สูงในระดับ 68% ทั้งนี้โดยหวังว่าจะสามารถจับไวรัสที่ผันแปรไปเหล่านี้ได้บ้าง และทำให้มีการติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนครบสองเข็มไม่มากจนเกินไปและไม่มีอาการหนักมากจนเกินไป

•หลักฐานความสามารถของไวรัสเดลต้า แม้ในคนที่ได้วัคซีนแล้ว!!!
(ข้อมูลและความเห็นจาก ดร. อนันต์ จงแก้ววัฒนา Anan Jongkaewwattana)
แม้ว่าพบคนติดเชื้อได้หลังจากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มประมาณ 6% แต่ในจำนวนที่ติดเชื้อแล้วมีอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาลคือ 11% ผู้ป่วยที่เสียชีวิต จากการติดไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ทั้งหมด 42 ราย ในอังกฤษที่ใช้วัคซีนไฟเซอร์และแอสตร้า มีถึง 12 ราย หรือ 28.5% เป็นผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ถ้ารวมอีก 7 ราย ที่ได้วัคซีน 1 เข็ม ตัวเลขของผู้ป่วยเสียชีวิตที่ได้วัคซีนครบ 1 เข็ม สูงถึง 45.2%

•ทำไมยังคงต้องรีบฉีดทั้งทางที่สายเดลต้าเริ่มเล็ดรอดไปแล้ว?
ต้องไม่ลืมว่าไวรัสสายปกติพี่วัคซีนยังสามารถป้องกันการติดได้ดีพอสมควรยังมีอยู่มากและทำให้คนที่ติดเชื้ออยู่มีอาการหนักในห้องไอซีอยู่มากมายขณะนี้ ทั้งนี้ถ้าดูตัวเลขผู้ป่วยในไอซียูตามตัวเลขทางการที่สอดท่อจะดูเหมือนไม่มากไม่กี่ 100 ราย แต่ในความเป็นจริงที่รอเข้าไอซียู แต่เข้าไม่ได้เพราะเตียงเต็ม ยังมีอยู่อีกมากและยื้ออยู่โดยการให้ออกซิเจนปริมาณสูงประทังไว้ และจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีสายเดลต้า หรือเบต้า เข้ามาเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศไทยโดยที่สายพันธุ์ปกติยังควบคุมไม่ได้ด้วยซ้ำ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img