“หมอระวี” เหน็บ “นิพิฏฐ์” อาจมอง “ประยุทธ” พลาด แทนที่จะเป็นโจโฉ แต่อาจเป็นขงเบ้งแทน ฝาก ส.ส.ที่จำเป็นต้องย้ายพรรค ไม่ต้องรีบ เพราะยังมีกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับรอให้ผ่านการพิจารณาจากสภาอยู่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ต.ค. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย วิเคราะห์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะใช้ยุทธวิธีโจโฉ “ผู้ไม่ยอมให้โลกทรยศ” จะยุบสภ”าก่อนวันที่ 24 ธ.ค.65 เพราะเป็นวันสุดท้ายที่ ส.ส.จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ได้ว่า ตนไม่มั่นใจว่าเซียนกฎหมายแบบนายนิพิฏฐ์ สื่อสารคาดเคลื่อนหรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 97(3) และ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 41(3) กำหนดว่า กรณีที่สภาอยู่ครบวาระ นั่นคือวันที่ 24 มี.ค.66 ส.ส. ที่ต้องการย้ายพรรค ต้องย้ายพรรคอย่างน้อย 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง
ซึ่ง กกต. ได้ระบุชัดแล้วว่าถ้าสภาอยู่ครบวาระ จะกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค.66 ดังนั้น ส.ส. ต้องย้ายพรรคก่อนวันที่ 7 ก.พ.66 ซึ่งคือก่อนวันเลือกตั้ง 90 วัน ไม่น่าจะใช่วันที่ 24 ธ.ค.65 ตามที่นายนิพิฏฐ์ระบุ
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดยุบสภาก่อนวันที่ 24 ธ.ค.65 ส.ส.ก็ย้ายพรรคหลังยุบสภาได้ เพราะกฎหมายกำหนดว่า ต้องย้ายพรรคไม่น้อยกว่า 30 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง แต่กฎหมายกำหนดให้มีการเลือกตั้ง 45-60 วัน หลังยุบสภา ตนขอฝากไปถึง ส.ส.ที่จำเป็นต้องย้ายพรรค ไม่ต้องรีบ เพราะยังมีกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับรอให้ผ่านการพิจารณาจากสภาอยู่
“นายนิพิฏฐ์ อาจจะวิเคราะห์ผิดพลาด เพราะนายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ใช้ยุทธวิธีโจโฉ “ผู้ไม่ยอมให้โลกทรยศ” แต่น่าจะใช้ ยุทธวิธีของขงเบ้ง คือดูทิศทางลมและกระแสทางการเมืองที่เหมาะสม ที่จะพัดมาในวันดีเดย์ แล้วค่อยประกาศยุบสภา” นพ.ระวี กล่าว