“ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์”ยอมรับคำตัดสิน ยอมรับเสียใจเจ็บปวดเป็นของธรรมดา

“ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ให้พ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส. ยอมรับเสียใจและเจ็บปวดเป็นของธรรมดา ยันอุดมการณ์ไม่เปลี่ยน

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่ง 5 แกนนำ กปปส. “ถาวร-อิสสระ-ชุมพล-พุทธิพงษ์-ณัฏฐพล” พ้นจากความเป็น ส.ส. โดยจะมีผลตั้งแต่ 7 เม.ย.64 จากกรณีถูกคุมขังตามคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อปี 2557

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.64 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “Nataphol Teepsuwan – ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” ระบุว่า …“ตลอด 15 ปี บนเส้นทางการเมือง เคยเป็นสส.สอบตก เคยเป็นสส.เขต เคยเป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เคยเป็นทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เคยเป็นแกนนำ เคยถูกกล่าวหาว่าเป็น กบฏ เคยเป็นรัฐมนตรี เคยอยู่ในเรือนจำ ผมไม่เคยเสียใจในทุกบทบาทที่ทำ เพราะผมทำงานการเมือง ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่และชัดเจนมาโดยตลอด คือ การทำเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติที่ผมรัก การที่ผมออกไปต่อสู้ในฐานะ กปปส. เพื่อปกป้องประเทศชาติจากการทุจริตคอรัปชั่นในวันนั้น จนนำมาสู่การตัดสินคดี ต้องโทษจำคุก 7 ปี 4 เดือน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและยืนยันว่าพ้นสภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ แน่นอนครับ ความเสียใจย่อมมีเป็นของธรรมดา แต่ผมขอน้อมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ใช่จะยอมรับเฉพาะคำตัดสินที่เอื้อประโยชน์ให้ตนเอง พอคำตัดสินไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ก็ออกมาโวยวาย ประท้วง หาว่าศาลไม่เป็นธรรม!

ที่ผ่านมาผมภูมิใจที่ได้เคยดูแลรับใช้พี่น้องชาวทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ ได้เคยร่วมต่อสู้กับแกนนำและพี่น้องชาว กปปส ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ได้เคยดูแลกระทรวงศึกษาร่วมกับข้าราชการและครูมากมาย มาวันนี้ ผมได้กลับไปทำงานในโรงเรียน ทำกีฬาที่ผมรัก ได้มีเวลาให้กับครอบครัว และผมเชื่อเสมอว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใด หากเราทำทุกอย่างด้วยความศรัทธา ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยการคิดดี ทำดี ความสุขมันอยู่ที่ใจครับ
ผมขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ผม บี ลูกหมี พี่ถาวร พี่อิสสระ ผมเชื่อว่า ทุกคนมีกำลังใจที่ดี และพร้อมทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ขอบคุณจากใจอีกครั้งครับ”

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดีอีเอส และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พร้อมพวกพ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. จากกรณีถูกคุมขังตามคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ว่า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “จากข้าราชการธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่มีความฝันว่าอยากจะช่วยเหลือประเทศของตัวเอง บอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากทำงานการเมือง ตั้งใจอยากจะทำอะไรดีๆ ให้บ้านเมืองบ้าง หลายๆ คนก็เตือนว่ามันไม่ง่ายเพราะเราไม่ได้มีฐานการเมืองเหมือนคนอื่น ต้องเริ่มทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่เราก็ตัดสินใจเดินตามความฝันของตัวเอง จากการตัดสินใจในวันนั้นมาถึงวันนี้ 20 ปีเต็ม ผ่านเรื่องราวมากมาย ได้พบกับสิ่งดีๆ ประสบการณ์ดีๆ มากมาย ที่สำคัญได้พบกับประชาชนที่ให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เป็น ส.ส กรุงเทพฯ สมัยแรก เขตพญาไท เขตราชเทวี และรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ตามด้วยสมัยต่อมาเขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง จนมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 3 ของพรรคการเมืองหลักของรัฐบาลนี้ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่อีก 1 ปี 6 เดือน
ตลอด 20 ปี ผมเชื่อมั่นในเสียงประชาชน เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย ลงสมัครและเป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง เชื่อมั่นในทุกๆ คะแนนและความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้มาตลอด

วันนี้ก็คงถึงเวลาที่ต้องพักงานการเมืองที่รักและทุ่มเทมาตลอดแล้ว ด้วยคำพิพากษาที่เกิดขึ้น คงสะท้อนอะไรหลายๆอย่างในกระบวนการยุติธรรม แต่เราอยู่ภายใต้กฎและกติกา ก็ต้องรับในคำตัดสินนั้น”