วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSต้องร่วมกันฝ่าโควิดใหม่ ก่อนพังพินาศทั้งประเทศ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ต้องร่วมกันฝ่าโควิดใหม่ ก่อนพังพินาศทั้งประเทศ

ที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติชัดเจนแล้วว่า “ไม่มีการล็อคดาวน์” ใด ๆ ทั้งสิ้น

ดังนั้นบรรดาประชาชนคนไทย ก็สบายใจไปขั้นหนึ่งได้ว่า ณ เวลานี้ ประเทศไทยจะไม่เงียบเหงาเศร้าสร้อยเมือนในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาอีก

แม้ไม่มีการล็อคดาวน์ทั้งประเทศก็จริง แต่สถานการณ์ก็ไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ เพราะการแพร่ระบาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และระบาดในหลายพื้นที่

ด้วยเหตุนี้ ศบค. จึงได้แบ่งพื้นที่แต่ละจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงไปถึงจังหวัดที่มีความเสี่ยงต่ำ และมอบอำนาจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ตัดสินใจในการดำเนินการ

เป็นที่รู้กันว่า ณ เวลานี้ รัฐบาลของบิ๊กตู่ มีประสบการณ์ในการรับมือการระบาดของไวรัสร้ายโควิด 19 มาแล้ว หากหยุดทุกอย่าง หากล็อคดาวน์ประเทศ เหมือนครั้งแรก รับรองได้ว่าประเทศเจ๊งแน่!!

เพราะอย่าลืมว่า…เพียงแค่ไม่กี่เดือนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ทำประเทศเจ๊งจนเศรษฐกิจติดลบไปกว่า 10% ทีเดียว ที่สำคัญ!!ในเวลานี้ เพียงแค่ล็อคดาวน์เป็นบางพื้นที่ในจ.สมุทรสาคร พื้นที่ต้นเหตุ ปรากฎว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ก็ปาเข้าไปกว่า 15,000 ล้านบาทกันแล้ว ตามที่หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร รายงาน

ประชาชนคนทั้งประเทศคงจำกันได้ ว่าพิษของโควิด 19 ในรอบแรกนั้น หนักหนาสาหัสเพียงใด สาหัสจนบรรดามนุษย์เงินเดือน สาวโรงงาน หนุ่มโรงงาน และบรรดาพนักงานเอกชน ต้องตกงานกันเป็นหลักล้านคน

หลายคนต้องล้มหายตายจาก เพราะทำธุรกิจไม่ได้ โดยเฉพาะบรรดาภาคการท่องเที่ยว และที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่ต้องปิดตัว ปิดธุรกิจกันไปเลย

ในช่วงระบาดครั้งแรก ก็ต้องหยุดเทศกาลรื่นเริงอย่าง “สงกรานต์” กันชัดเจน!!

มารอบนี้…รอบที่สอง แม้ในภาษาหมอจะบอกว่าไม่ใช่ระลอกที่สอง แต่เป็นการระบาดใหม่ก็ตาม ก็พาเอาเทศกาลรื่นเริง “ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่” ต้องหยุดชะงักงัน

บรรดผู้ประกอบการ นักวิชาการ กูรู ทั้งหลาย ต่างมองในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ยังมั่นใจในการทำงานของรัฐบาล และทีม ศบค. แต่ถ้ายิ่งปล่อยให้เนิ่นนาน ก็อาจทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง

“อมรเทพ จาวะลา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บอกว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 อาจทำให้ เศรษฐกิจไทยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจ “ถดถอยซ้ำซ้อน” (Double-dip recession) หากภาครัฐไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับ “สมประวิณ มันประเสริฐ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสายงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่ย้ำว่า เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะเกิดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากที่สุด

ทั้งหลายทั้งปวง!!! อาจทำให้ไทยต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจ “ถดถอย” อีกครั้ง!!

นี่..คือเรื่องที่น่ากลัว เพราะผลที่จะตามมานั้นอีกยาว และอาจซ้ำเติมคนไทยทั้งประเทศเพิ่มมากขึ้นไปอีก ทั้งที่คาดหมายกันว่าจีดีพีไทยน่าจะขยับตัวเพิ่มขึ้นมาได้ที่ 3.5%-4.5%

“การระบาดใหม่” ครั้งนี้…มาเร็วและมาแรง ต่อให้รัฐบาลทำเต็มที่ แต่ถ้าคนไทยยังไม่พึงสังวร ยังไม่ระมัดระวัง ยังไม่ตระหนักในเรื่องนี้ ต่อให้ทุ่มเงินทุ่มงบประมาณลงมาแค่ไหน ก็เอาไม่อยู่แน่

อย่าลืมว่า… การระบาดรอบที่แล้ว เหตุใหญ่เกิดที่สนามมวยลุมพินี ก็จะหนักอยู่ที่บรรดาเซียนมวย ที่ไม่เดินทางไปทั่วประเทศเท่าใดนัก ตัวเลขของผู้ที่ติดเชื้อจึงเริ่มต้นเพียง 160 คน

แต่ทว่า!! รอบนี้ การระบาดเกิดขึ้นที่ตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นที่รวมของทะเล พ่อค้าแม่ค้าทั่วทุกสารทิศทั่วประเทศ ต้องเดินทางมาซื้อสินค้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจใด ๆ ที่เราจะเห็นการระบาดเกิดขึ้นอยู่ทั่วไปหมด

ที่สำคัญ… ผู้ติดเชื้อ ก็มีมากขึ้นเป็นหลักพันคน กันทีเดียว

เอาเป็นว่า นาทีนี้ อย่าเพิ่งโทษใคร อย่าเพิ่งบอกว่าเป็นความผิดของใคร แต่คนไทยทั้งประเทศต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อฝ่าวิกฤตการระบาดใหม่นี้ไปให้ได้โดยเร็ว!!

……………………………….

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img