เทศกาลสงกรานต์ กองทัพตั้งจุดบริการประชาชนระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.จำนวนกว่า 204 จุด ทั่วประเทศ เหนื่อย ล้า พักได้ที่จุดบริการ
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 13 เม.ย.67 ซึ่งตรงกับ เทศกาลสงกรานต์ หรือ “ปีใหม่ไทย” ขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือเดินทางไปท่องเที่ยว เดินทางด้วยความปลอดภัย
@@@…….ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการลดอุบัติเหตุจากการใช้ถนน โดยบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย โดย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ สนับสนุนศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ด้วยการจัดตั้งจุดบริการประชาชนในห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.67 จำนวนทั้งสิ้น 204 จุด ทั่วประเทศ
@@@…….พล.ร.อ.สุเทพ ปุจฉาการ รองเสนาธิการทหาร ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชน ของกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งรับผิดชอบโดย โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ณ บริเวณสี่แยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก กรุงเทพฯ สำหรับ จุดบริการประชาชน จำนวน 204 จุด ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำนวน 3 จุด กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 38 จุด กองทัพบก จำนวน 76 จุด กองทัพเรือ จำนวน 74 จุด และกองทัพอากาศ จำนวน 13 จุด โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาสังคม ทั่วประเทศ
@@@…….สำหรับจุดบริการประชาชน โดยในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 38 จุด มีสำนักงานพัฒนาภาค 1-5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ และกรมยุทธบริการทหาร เป็นหน่วยรับผิดชอบ ซึ่งให้บริการประชาชนในเส้นทางสายหลัก และสายรองที่ประชาชนเดินทางสัญจร นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่ผู้สัญจรในด้านการขับขี่ปลอดภัย ภายใต้หัวข้อ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” การให้บริการสอบถามข้อมูลเส้นทาง การบริการห้องสุขา การตรวจสภาพและซ่อมแซมยานพาหนะจากโรงเรียนช่างฝีมือทหาร การบริการเครื่องดื่ม อาหารว่างและผ้าเย็น การบริการทางการแพทย์ การแจ้งเหตุร้องทุกข์
@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้นำคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก พร้อมด้วยกำลังพล ประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 และพิธีสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ ทั้งนี้ พล.อ. สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้แทน นำข้าราชการและกำลังพลภายในกองบัญชาการกองทัพบก กล่าวอวยพรและขอรับพรจากผู้บัญชาการทหารบก เนื่องในประเพณีวันสงกรานต์ สำหรับกิจกรรมวันสงกรานต์ในวันนี้ กองทัพบกได้ประกอบพิธีสรงน้ำพระ โดยได้อันเชิญ “พระพุทธสิงห์ชัยมงคล” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำกองทัพบก ตั้งแต่ปี 2510 เปิดโอกาสให้กำลังพลได้ร่วมสรงน้ำพระ เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ไทย ถือเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามให้อยู่คู่สังคมไทย อันจะนำมาซึ่งความเป็นปึกแผ่น และตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติต่อไป
@@@……มาที่ประเทศเพื่อนบ้าน….การสู้รบโดยรอบ “เมืองเมียวดี” และพื้นที่ใกล้เคียง ในรัฐกระเหรี่ยง แนวรบด้านตะวันออกติดกับประเทศไทยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นเสถียรภาพของรัฐบาลทหารเมียนมากำลังสั่นคลอนในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และคาดเดาได้ยาก
@@@…….หลังปฏิบัติการของ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2491 สมัย นายพลโบเมี๊ยะ ครั้งนี้ร่วมกับกองกำลังต่อต้านอีกหลายกลุ่ม อาทิ กองทัพอิสระกะเหรี่ยงแห่งชาติ KNLA, กองกำลังชาติพันธุ์กะเรนนี KNDF รวมถึง กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง BGF ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่เข้มแข็งมาก และเป็นผู้ควบคุมพื้นที่ติดชายแดนไทยที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ ที่เพิ่งจะตัดความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมา เมื่อต้นปี 2567 ทำให้ดุลอำนาจในรัฐกระเหรี่ยงเปลี่ยนไป
@@@…….การปะทะกันอย่างดุเดือดยังคงดำเนินต่อไปใกล้ชายแดนไทยในเมืองเมียวดีของรัฐกะเหรี่ยง ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่ ทหารกะเหรี่ยง และกองกำลังพันธมิตรเปิดฉากการโจมตีวันที่ 2 เพื่อเอาชนะกองพันทหาร 275 หน่วยสุดท้ายที่เหลืออยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ กองทัพปลดแอกแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA และพันธมิตรจากกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ เริ่มโจมตีกองบัญชาการกองพันทหารราบที่ 275 หลังจากเอาชนะทุกกองกำลังในเมืองเมียวดีของรัฐกะเหรี่ยงเหนือ หลายวันที่ผ่านมา
@@@…….อย่างไรก็ตาม พล.อ.อาวุโส โซ วิน ผบ.ทบ. สั่งการให้กองทัพเมียนมา เปิดยุทธการตอบโต้ และเข้ามาบัญชาการที่กองทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ เมืองมะละแหม่ง โดยวางแผนชิงเมืองเมียวดี ให้จบลงให้ได้ ภายใน 2-3 วันนี้ การบุกเมียวดีของกำลังทหารพม่าจากเมืองผาอัน เคลื่อนกำลังทหาร รถหุ้มเกราะและรถถัง ไปบนถนนสายเอเซีย มุ่งหน้าสู่เมืองเมียวดี มีเป้าหมายสนับสนุนกองพัน 275 หรือหน่วยกำลังที่ยังเหลือรอดอยู่ ขณะที่ ทหาร KNU ยังยึดค่ายผาซอง กองพัน 275 ไม่ได้ สถานการณ์ในเมืองเมียวดี ยังเป็นปกติ จนถึงเมื่อวันที่ 11 เม.ย. รายงานข่าวจากจังหวัดตากถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU แจ้งว่า ฝ่ายทหารเมียนมาได้ถอนตัวออกจากค่ายผาซองแล้ว ทำให้เสียงปืนจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาด้าน อ.แม่สอด สงบลง ด้านฝ่ายต่อต้านเข้าไปยึดค่าย และได้ยึดอาวุธปืน พร้อมกระสุนปืนจำนวนมาก
@@@…….ปัจจุบัน ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะชายแดนไทย-เมียนมาด้าน อ.แม่สอด อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องต่อไป โดยฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากจะต้องจัดวางกำลังทหารเตรียมพร้อมตลอดแนว และ ทอ.ใช้ F-16s ทำการบินลาดตระเวนรบรักษาเขตแล้ว การเตรียมพื้นที่รองรับผู้หนีภัยสงครามให้เพียงพอ ในภารกิจเพื่อมนุษยธรรม หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นไปอีกจากนี้ไป กลายเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการสู้รบกันในเมียนมา จะถือเป็นเรื่องภายในของเมียนมาเองก็ตาม แต่ก็เป็นสถานการณ์การสู้รบชิดชายแดนไทยที่ไม่พึงประสงค์ และการวางตัวเป็นกลางของไทยนั้น จะละเลยประเด็นด้านมนุษยธรรมนั้น ไม่ได้
@@@…….ฝ่ายความมั่นคงคาดว่า ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้ในช่วงนี้ก็ตาม การสู้รบมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อผู้คนในพื้นที่ รวมทั้งการยึดครองเมืองเมียวดีอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็จะมิได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงยังคงหวังว่า สถานการณ์ในเมืองเมียวดี ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่ให้ผลประโชน์มูลค่าสูงสำหรับทุกๆ ฝ่ายนั้น จะคลี่คลายกลับมาเป็นปกติโดยเร็วได้ในที่สุด
………………………………….
คอลัมน์ : Military Key
โดย “รหัสมอร์ส”