การปรับปรุงภูมิทัศน์วัดสระเกศฯของ “พระธรรมโพธิมงคล” เจ้าอาวาสรูปใหม่ ที่ไปกระทบกับแหล่งโบราณสถาน ภายในวัดสระเกศฯ โดยเฉพาะแนวหินโบราณสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ใช้เป็นแนวป้องกันการทรุดตัวของวิหารพระอัฏฐารส
นอกจากนั้นจากการลงพื้นที่ของกรมศิลป์ ยังพบอีกว่า มีการทำลายดวงตราสัญลักษณ์ “สด” ของ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาศิษย์เก่าและพระภิกษุซึ่งเป็น “ลูกในใส้” ของวัดสระเกศอย่างขว้างขวาง
“เปรียญสิบ” เคยเตือนหลายครั้งแล้วการโยกย้าย “เจ้าอาวาส” โดยไม่ฟังเสียงพระในวัด ไม่คำนึงถึง “วัฒนธรรมวัดและคนรอบวัด” จะสร้างปัญหาอย่างขนานใหญ่ให้กับวงการคณะสงฆ์และชาวพุทธ เนื่องจาก “พระคุณเจ้า” ที่จะขึ้นดำรงเจ้าอาวาส มีการอบรมกล่อมเกลาวัฒนธรรมประเพณีภายในวัด “จากรุ่นสู่รุ่น” มิใช่ลอยมาดั่งนภากาศ กรณีนี้ แม้แต่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือ “วัดโพธิ์ท่าเตียน” เรื่องการเปลี่ยน “สีจีวร” เป็น “บาดแผล” ให้สมเด็จพระมหาธีราจารย์ จนทุกวันนี้
การปรับปรุงภูมิทัศน์และก่อสร้างต่อเติมจากสิ่งเดิมภายในวัด วัดในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่พวกเรา “ชาววัด” รับรู้กันทั่วไปว่า “กำแพง” ใหญ่ที่สุดคือ “กรมศิลปากร” เพราะขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้ มิใช่ว่าเจ้าอาวาสหรือกรรมการวัดจะทำการปรับปรุงหรือต่อเติมได้อย่างใจชอบ จะทำอะไรต้องขอ “อนุญาต” ทุกครั้ง
กรณีวัดกัลยาณมิตร “เจ้าคุณประกอบ” น่าจะเป็นแบบอย่างและบทเรียนได้เป็นอย่างดีกับคณะสงฆ์ ทุกวันนี้ไม่รู้คดี “ฟ้องร้อง” ระหว่างวัดกับกรมศิลป์ จบแล้วหรือยัง!!
ตอนนั้นหากจำไม่ผิด วัดกัลยาณมิตรต้องการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบวัด ต้องการต่อเติมซ่อมแซมศาลาที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเอาไว้ แต่มีชาวบ้านและกรมศิลป์ค้าน ในขณะที่เจ้าอาวาสไม่ยอม เดินหน้าเพราะคิดว่าตนเองทำถูก มีเงินและผู้รับเหมาพร้อม จนเกิดเรื่องใหญ่โตบานปลาย เจ้าอาวาสต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ซ้ำเจอบรรดา “เปรียญ 9” บางคนบางกลุ่มไปไถเงินอีก จริงหรือไม่ ต้องไปถาม เจ้าคุณประกอบ หรือ “พระพรหมกวี”
“วัดสระเกศ” เฉกเช่นเดียวกัน มีข่าวลือกระฉ่อนจริงหรือไม่ว่ามี “อ้วนใหญ่-อ้วนเล็ก” คอยดูแลโครงการใหญ่เล็กภายในวัด และมีพระตัวเล็ก “ใจใหญ่” ฝั่งธน เป็น “กุนซือ” ตรงนี้ต้องระวัง??
“เจ้าอาวาส” เราก็แบบนี้มักมี “ผู้รับเหมา” หรือคนใกล้ชิด จัดสรรผลประโยชน์ให้ เวลาโยกย้ายไปไหน “บรรดา” คนพวกนี้ก็จะเกาะติดตามไปด้วย คนพวกนี้เมื่อรู้ว่า “วัด” มีเงินหรือหากไม่มีก็ยุให้เจ้าอาวาส “ระดมทุน” จากชาวพุทธบ้าง ของบพิเศษจากหน่อยงานภาครัฐบ้าง หรือไม่ก็ยุคก่อนก็งบจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ก็มีมาก มาทำการก่อสร้าง ต่อเติม ปรับปรุง จน “อิ่มหนำสำราญ” ไม่รู้เข้าข่ายกฎหมายฟอกเงินหรือไม่??
หากยุ่งเหยิงมาก ระวังรัฐกระชับอำนาจ วัดในฐานะนิติบุคคลจะก่อสร้างซ่อมแซมต่อเติมอะไรต้องประกวดราคาเหมือนกับหน่วยราชการ..อย่าหาว่าโยมไม่เตือน??
…………..
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย….“เปรียญสิบ” : riwpaalueng@gmail.com
