วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSเลือกตั้งปี 2566 บทพิสูจน์น้ำยา“กกต.” ยก“4 เครื่องยนต์”เพื่อบรรลุเป้าหมาย!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เลือกตั้งปี 2566 บทพิสูจน์น้ำยา“กกต.” ยก“4 เครื่องยนต์”เพื่อบรรลุเป้าหมาย!!

ในทางการเมืองปีใหม่ที่กำลังผ่านพ้นไป ถือว่ามีความหมายสำหรับนักการเมืองและนักเลือกตั้ง เพราะ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะครบวาระการทำหน้าที่ 4 ปี ในวันที่ 23 มี.ค.66 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ (รธน.) 2560 ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้วางไทม์ไลน์กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปคือ วันที่ 7 พ.ค.66

แต่จับตาสัญญาณที่ปล่อยมาจากคนใกล้ชิดหัวหน้ารัฐบาล “ธนกร วังบุญคงชนะ” รมต.รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ออกมาระบุ เชื่อว่าเราน่าจะอยู่ใกล้ครบวาระ แต่ก็มี การยุบสภาอย่างแน่นอน ส.ส.หลายๆ คนกังวลว่าถ้าอยู่ครบวาระจะขยับขยายไม่ทัน แต่ตน เชื่อว่าไม่เป็นเช่นนั้น 

เพราะตัวเองวันนี้ก็เป็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังทำหน้าที่ส.ส.อยู่ แต่วันหนึ่งจะไปไหน ตนก็จะไปอยู่กับนายกฯ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่านายกฯจะไปไหน ซึ่งต้องมีการยุบสภาก่อน ตนถึงจะไปอยู่กับนายกฯได้ทันเวลา ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลย

อย่าลืม “พล.อ.ประยุทธ์” ประกาศร่วมงานกับ พรรครวมไทยรักษาชาติ (รทสช.) โดยมีข่าวว่าในช่วงกลางเดือนม.ค. หรืออาจก่อนวันเด็กแห่งชาติ จะมีความชัดเจนที่หัวหน้ารัฐบาลจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. อย่างเป็นทาง ซึ่งจะทำการเมืองมีความเข้มข้นและร้อนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจาก “พล.อ.ประยุทธ์” ดำรงตำแหน่งนายกฯมา 8 ปีแล้ว  และมีเป้าหมายที่จะยึดสถานะ หัวหน้ารัฐบาลอีก 2 ปี

ต้องยอมรับ ไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือยุบสภาฯ องค์กรที่จะต้องแบกรับภาระในการจัดเลือกตั้งคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งจะมีหน้าที่ในการทำให้ กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ยิ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการเลือกตั้งที่ เข้มข้นและดุเดือด แต่ละฝ่ายจะไม่มีใครยอมใคร เนื่องจากบทสรุปที่ออกมา จะส่งผลถึงใครจะมีบทบาทคุมอำนาจรัฐ และใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง

อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.

ด้าน “อิทธิพร บุญประคอง” ประธานกกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของกกต.ในการจัดการเลือกตั้งส.ส. เป็นการทั่วไปในปี 2566 ว่า กกต.ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งส.ส. จะมีขึ้นไว้แล้วโดยทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับแก้ไข) มีผลใช้บังคับ กกต.จะเร่งพิจารณาออกระเบียบและประกาศที่สืบเนื่องจากพ.ร.ป.ทั้งสองฉบับ

ทั้งเรื่องวิธีการสรรหาผู้สมัครไพรมารีโหวต และ การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และ ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รวมทั้งการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส. ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทางสำนักงานกกต.ประจำจังหวัด (กกต.จว.) เตรียมจัดทำเขตเลือกตั้งตามรูปแบบไว้แล้วอย่างน้อย 3 รูปแบบ โดยยึดตามจำนวนประชากรปี 2564 แต่หากช่วงต้นปีหน้ามีการประกาศจำนวนประชากรปี 2565 จะต้องมีการคำนวณจำนวนส.ส.ในแต่ละจังหวัดใหม่ และดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนส.ส.ใหม่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก

“อิทธิพร” ยังกล่าวถึงความพร้อมของสำนักงานกกต. ว่าได้มี การจัดประชุมเชิงปฎิบัติการ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กกต.จว.) ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนงานจัดการเลือกตั้งในแต่จังหวัด เตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจการปฏิบัติในรายละเอียดแล้วสองครั้งเมื่อวันที่ 17-19 ส.ค. และวันที่ 30 พ.ย. -2 ธ.ค.65 

แอพพลิเคชั่น ฉลาดเลือก Smart Vote

สำหรับการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการเลือกตั้งและบุคลากร อยู่ระหว่างการจัดเตรียม เพื่อให้เป็นไปตามแผนดำเนินการ นอกจากนี้กกต.ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ฉลาดเลือก Smart Vote เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น การตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีสิทธิลงคะแนน ข้อมูลผู้สมัครส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แยกตามเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แยกตามพรรคการเมือง และรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งข้อมูลของพรรคการเมือง เป็นต้น

ขณะที่ “แสวง บุญมี” เลขาธิการกกต. ระบุว่า เรามีเป้าหมายในการเลือกตั้งส.ส. เป็นการทั่วไปครั้งต่อไป ให้การเลือกตั้งเป็น ทางออกของประเทศ ให้ได้ การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับทั้งกระบวนการและผลการเลือกตั้ง สร้างความเชื่อมั่น และ เกียรติภูมิแก่ กกต.และสำนักงาน โดยองค์ประกอบที่จะทำให้พวกเราบรรลุตามเป้าหมาย ต้องมีเครื่องยนต์อย่างน้อย 4 เครื่องยนต์ กล่าวคือ 1.คนดี 2.การบริหารจัดการดี 3.เทคโนโลยีดี และ 4.สื่อสารดี โดยมีความเชื่อมั่นในพวกเราตามข้อ 1 มากที่สุด

แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราไม่ได้เดินครบทั้ง 4 เครื่องยนต์ เราขาดเทคโนโลยี เราไม่มีแอพพลิเคชั่น ที่ใช้อำนวยความสะดวกในการรับสมัคร ให้แก่พรรคการเมือง ผู้สมัคร เขต สนง. หน่วยงานสนับสนุน เหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมทั้งไม่มีแอพพลิเคชั่น ในการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา

“เรื่องที่เกิดขึ้นในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว แต่แม้จะมีข้อจำกัด ผมก็มีความเชื่อมั่นในพวกเรา ว่าเราจะทำการเลือกตั้ง บรรลุตามเป้าหมายทั้ง 3 ข้อข้างต้นได้ แต่อาจจะต้องเก่งขึ้นอีกนิด มันจึงเป็นแค่ความท้าทาย ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคที่จะหยุดเราแต่อย่างใด” เลขาธิการ กกต.กล่าว

แสวง บุญมี / FB : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

เลขาธิการกกต. ยังระบุถึงตัวชี้วัดและให้คุณค่าตัวชี้วัดในแต่ละเครื่องมือ ดังนี้

1.ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้น 5% จากของเดิมในแต่ละจังหวัดตัวเอง

2.บัตรเขย่ง คะแนนเขย่ง เป็นศูนย์ ซึ่งเราทำได้มาแล้วจากการเลือกตั้งท้องถิ่นเกือบทั้งหมด อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ใหญ่มาก แต่ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นก็สามารถอธิบายชี้แจงได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ครบถ้วน เพื่อมิให้ผู้ไม่หวังดีนำไปขยายผลเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

3.บัตรเสียมีสัดส่วนที่น้อยลง จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เทียบกับจังหวัดตนเอง

4.มีสำนวนการเรื่องร้องเรียน กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) น้อยลง เทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้วในจังหวัดตนเอง

5.รายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว

6.นำ แบบ ส.ส. 5/18 เข้าในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้พรรคการเมือง ผู้สมัคร และประชาชนได้ตรวจสอบภายในกำหนดเวลา

7.มีศูนย์ข่าวในแต่ละจังหวัด ซึ่งเท่าที่ทราบมีอยู่แล้ว ที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว เพื่อใช้ประโยชน์ในการ ควบคุม บริหารสถานการณ์ การเลือกตั้ง ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ไปจนถึงวันเลือกตั้ง วันประกาศผล เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ต้องถือเป็น “การบ้านข้อใหญ่” ของ กกต. หลังก่อนหน้านั้นองค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำงานแบบเก็บตัว ไม่ค่อยออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน ดังนั้นต่อจากนี้ รอดูว่า กกต.จะออกมาชี้แจงต่อสังคมมากขึ้นหรือ ยิ่งก่อนหน้านั้น ก็เคยมีปัญหาในการใช้ดุลยพินิจ จนแพ้คดีความ นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบ

หลังเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.65 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 นัดอ่านคำพิพากษา คดี กกต. อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น พิพากษาให้ กกต.ต้องชดใช้เงิน 70 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายกรณีให้ใบส้ม แก่ “สุรพล เกียรติไชยากร” ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ลดค่าเสียหายจาก 70 ล้านบาท เหลือ 56.7 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย

ทำให้ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร ) และ อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก “กรณี กกต. ยอมจ่าย 62 ล้าน คือภาษีของประชาชน ที่มาจากความผิดพลาด ในคำวินิจฉัยของ กกต. จะมีการออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง เรื่องนี้ ไม่ควรเงียบ และ ถือเป็นบทเรียนของ กกต. ในการที่ต้องรอบรู้ในเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง

และมีวิจารณญาณในการตัดสิน และเป็นสิ่งพิสูจน์ว่า “สเปกองค์กรอิสระมหาเทพ” ที่ “มีชัย ฤชุพันธ์” ฝัน ผลเป็นอย่างไร หากมีการจ่ายเงินภาษีประชาชน 62 ล้านบาทแล้ว สำนักงาน กกต. ต้องตั้งกรรมการหาผู้รับผิดทางละเมิด ที่ทำให้ราชการมีความเสียหาย เตรียมหารเจ็ดไว้ด้วย

ต้องยอมรับ คดีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ ศาลจังหวัดฮอด พิพากษาให้ สำนักงานกกต. ชดใช้ค่าเสียหายและเยียวยากว่า 64 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นเงิน 70 ล้านบาท แก่ “สุรพล” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. อดีต ส.ส.เชียงใหม่ 8 สมัย โดยก่อนหน้านี้ ศาลฎีกา พิพากษายกฟ้องคดีที่ กกต. ยื่นฟ้องนายสุรพล คดีบูชาเทียนเพื่อทำบุญวันเกิด 2,000 บาท ตั้งแต่เมื่อปี 2563 โดยระบุว่า ไม่ใช่เป็นการซื้อเสียง หรือทุจริตการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2562

โดยต้นตอของเรื่องนี้ เกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งปี 2562 กกต.ได้รับคำร้องร้องเรียนกล่าวหาว่า “สุรพล” ใส่ซองทำบุญให้พระสงฆ์ 2,000 บาท เข้าข่ายเป็นความผิดตาม ตามพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (2) ฐานให้เงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดในช่วงที่มีการเลือกตั้ง

สำนักงาน กกต.

ต่อมา กกต.วินิจฉัยว่า “สุรพล” มีความผิดตามที่กล่าวหา จึงมีมติให้ “ใบส้ม” คือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.2562 และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 จนท้ายที่สุด “ศรีนวล บุญลือ” ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในขณะนั้นเข้าเส้นชัยไป (ปัจจุบัน ศรีนวลย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย)

ถือเป็นบทเรียนของกกต. ซึ่งหลายคนได้แต่ภาวนาว่า ไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นการเลือกตั้งปี 66 จึงถือเป็น เดิมพันครั้งสำคัญ ขององค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ยิ่งมีความหมายถึง การช่วงชิงอำนาจรัฐ นักการเมืองไม่มีใครยอมใครแน่

……………

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย..“แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img