วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSใกล้เปิดสภาฯ เข้าสู่โหมด“ระทึก”!!!! ชิง“เก้าอี้ปธ.สภาฯ”-โหวต“นายกฯ”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ใกล้เปิดสภาฯ เข้าสู่โหมด“ระทึก”!!!! ชิง“เก้าอี้ปธ.สภาฯ”-โหวต“นายกฯ”

71 รายชื่อว่าที่ส.ส.ระบบเขต ที่กระจายอยู่ใน 37 จังหวัด ซึ่งชนะเลือกตั้งมา แต่มีข่าวว่าถูกร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด จนทำให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ส่งรายงานไปยังสำนักงานกกต.ส่วนกลาง ที่ก็ส่งต่อไปยัง ที่ประชุมใหญ่กกต.เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทั้ง 71 คน ถูกร้องเรียนในประเด็นต่างๆ จนตอนนี้ชื่อถูกแขวนอยู่ในแฟ้มรอการประกาศรับรองให้เป็นส.ส.

ใน 71 รายชื่อดังกล่าว แยกเป็น พรรคภูมิใจไทย 21 คน-พรรคเพื่อไทย 20 คน-พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน-พรรคพลังประชารัฐ 14 คน-พรรคก้าวไกล 7 คน-พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 คน-พรรคไทยสร้างไทย 2 คน-พรรคเพื่อไทรวมพลัง 1 คน

หากถามว่าสถานการณ์แต่ละคนน่าเป็นห่วงหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า ก็น่าเป็นห่วงระดับหนึ่ง หากเรื่องที่โดนร้องมีมูล-มีพยานหลักฐาน ในการชี้ชัดว่า ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจริงในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ก็ถือว่าเข้าขั้นโคม่า

อย่างไรก็ตาม พบว่าคนที่มีชื่อใน 71 รายชื่อทั้งหมด ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก สำนักงานกกต.ประจำจังหวัดให้เข้าชี้แจงเรื่องที่ถูกร้องเรียน แสดงว่า ยังเป็นแค่การร้องเรียนและอยู่ในช่วงตั้งต้นการพิจารณาเท่านั้น  

อีกทั้ง ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วหลังเลือกตั้ง 14 พ.ค. แต่กกต.ยังไม่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งและประกาศรายชื่อส.ส.สักคน

ทำให้เริ่มเกิดกระแสกดดันเรียกร้องให้กกต.เร่งประกาศรับรองผลเลือกตั้งดังขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจะได้มีส.ส.-มีสภาฯ ไปโหวตเลือกประธานสภาฯ และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 

รวมถึงปัจจัยเรื่อง “ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี” กกต.จะพ้นจากตำแหน่งเพราะอายุครบ 70 ปีในวันที่ 28 มิ.ย.นี้  

อีกทั้งกกต. ก็มีบทเรียนมาแล้ว ที่ตอนเลือกตั้งปี 2562 กับกรณีการให้ ใบส้ม กับ “สุรพล เกียรติไชยากร” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทยตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่ “สุรพล” ชนะเลือกตั้งแต่กกต.ให้ใบส้ม

แต่สุดท้ายคดีพลิกในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ที่ศาลยกคำร้องของกกต. ทำให้ “สุรพล” ฟ้องกลับเรียกค่าเสียหาย ที่ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นฎีกา หลังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตัดสินให้ “สุรพล” ชนะคดี โดยให้สำนักงานกกต.และกกต.ที่ร่วมกันให้ใบส้มกับ “สุรพล” ชดใช้เงิน 56 ล้านบาท

มันเลยทำให้ ทั้งกกต.กลางและสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดทุกแห่ง ย่อมเกิดอาการเกร็ง ถ้าจะไม่รับรองใครให้เป็นส.ส.ด้วยการให้ใบเหลือง-ใบส้มก่อนประกาศผลเลือกตั้ง เพราะถ้าพลาดอีก เช่นพยานหลักฐานไม่แน่นหนาพอ แล้วสุดท้ายคดีพลิก โดนฟ้องกลับ ก็อ่วมอรทัย แบบคดีของ “สุรพล”

สู้ใช้วิธีให้ “รับรองไปก่อน ค่อยสอยทีหลัง” หากพบว่า คนที่โดนแขวนหรือโดนร้องเรียน มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แล้วค่อยให้ “ใบเหลือง-ใบแดง” แบบนั้นจะเซฟตัวเองกว่า ขณะที่ก็คาดว่า กกต.กลาง ก็น่าจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้ 

ผนวกกับเนื่องจากการเปิดประชุมสภาฯนัดแรก จะทำได้ รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ต้องมีส.ส.ที่ได้รับการรับรองจากกกต.แล้วร้อยละ 95 ของ 500 คน ที่คือ 475 คน ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต.ไฟเขียวไปแล้ว 329 คน เหลือ 71 คนข้างต้น ที่แขวนไว้อยู่ แต่ต่อให้กกต.รับรองส.ส.บัญชีรายชื่อทุกคน ที่ทั้งหมดไม่มีปัญหาอะไร อีก 100 คน รวมกันแล้ว ก็ยังแค่ 429 คน ก็ยังไม่ครบ 475 อยู่ดี ยังไม่สามารถเปิดประชุมสภาฯนัดแรกได้

ซึ่งถ้าไปถึงช่วง 28 มิ.ย. ที่ “ฉัตรไชย” จะพ้นจากตำแหน่ง ก็เท่ากับรวมเวลาไปร่วม 1 เดือนครึ่งแล้ว หลังการเลือกตั้ง ถ้าไปถึงตอนนั้น แล้วกกต.ยังไม่รับรองส.ส.จนครบ 475 คน เชื่อได้เลยว่า กระแสกดดันกกต.จะสูงขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะจากฝ่ายกองเชียร์พรรคก้าวไกล-ด้อมส้ม และเอฟซี พรรคเพื่อไทย ที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์กกต.อย่างรุนแรง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ในทำนองว่ายื้อการรับรองส.ส.เพราะหวังผลการเมือง เช่น จะได้ให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่นานๆ หรือไม่ก็จะถูกมองว่า ยื้อเพราะต้องการให้สำนวนคดีถือหุ้นสื่อของพิธา ในชั้นอนุกรรมการไต่สวนฯ เดินหน้าไปโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ส่งสำนวนคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ทันก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะหากกกต.ส่งคำร้องไป ยังไงแนวโน้มสูงที่ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นส.ส. จนทำให้ พิธา มีรอยตำหนิการเมือง และทำให้สมาชิกวุฒิสภา ยกเหตุผลนี้มาในการจะไม่โหวตให้พิธา เป็นนายกฯได้ง่ายขึ้น

เรียกได้ว่า ทัวร์ลงคณะใหญ่ที่หน้าสำนักงานกกต.ถ.แจ้งวัฒนะ แน่นอน หากกว่ากกต.จะรับรองผลเลือกตั้งจนมีส.ส.ครบ 475 คน ด้วยการลากไปถึงเดือนหน้า ก.ค.

ที่ประเมินดูแล้ว กกต.ทั้งหมด ก็จับสถานการณ์และกระแสของสังคมออกว่า ไม่ดีแน่ ถ้า กกต.จะใช้เวลาในการรับรองส.ส.นานเกิน 45 วันหรือเลยสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ไป

จากปัจจัยทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ว่า กกต.จะรับรองผลส.ส. ครบตามจำนวนจนเปิดสภาฯได้ภายในไม่เกิน 28 มิ.ย.นี้ ไม่แน่เผลอๆ อาจไฟเขียวยกแผง รับรองทั้งหมด 500 ชื่อ กันไปเลย

ส่วนจะตามสอยใครตอนหลัง ก็ค่อยมาว่ากันอีกที ซึ่งเชื่อได้ว่า แม้จะมี 71 คนโดนร้องเรียน แต่ถึงจังหวะที่จะต้องให้ใบเหลือง-ใบแดงกัน ก็น่าจะเหลือแค่ไม่กี่คน และหากจะให้คนที่โดน ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนจริงๆ เผลอๆ ไม่แน่ อาจมีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ ทำเป็นเล่นไป

จากสถานการณ์ข้างต้น เชื่อได้เลยว่า จะมีการเปิดประชุมสภาฯนัดแรก เพื่อเลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ที่จะเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง รวมถึงรองประธานสภาฯอีกสองคน น่าจะภายในไม่เกินกลางเดือนก.ค. หรือให้ช้าสุดก็คงไม่เกินสัปดาห์ที่สามของเดือนก.ค. และเมื่อได้ประธานสภาฯ มีการโปรดเกล้าฯลงมา คราวนี้ก็ถึงช่วงไคลแมกซ์การเมือง

เพราะประธานรัฐสภา จะนัดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ส.ส.และสมาชิกวุฒิสภามา โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนที่จะได้รับความเห็นชอบ จะต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่

ดังนั้น หากกกต.รับรองส.ส.ทั้งหมด 500 คน ก็บวกกับ สว.อีก 250 คน ดังนั้นเกินกึ่งหนึ่งก็คือ ต้องได้แตะ 376 เสียง

ซึ่งถึงตอนนี้ ข่าวหลายกระแสบอกว่า สว.ที่จะโหวตหนุน “พิธา” เป็นนายกฯ ยังมีไม่เกิน 30 เสียง โดยใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีอยู่  312 เสียง เท่ากับขาดอีก 64 เสียง

ถ้ายังเป็นแบบนี้ คือ “พิธา-พรรคก้าวไกล” ไม่สามารถไปดึงส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 8 พรรคตั้งรัฐบาลมาช่วยโหวตให้ได้ ต้องพึ่งเสียงสว.อย่างเดียว “พิธา-ก้าวไกล”ก็อาจฝันสลาย อดเป็นนายกฯ-ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ช่วงเวลาต่อจากนี้ ก่อนไปถึงวันโหวตนายกฯ ที่เวลาไล่หลังมาเรื่อยๆ “พิธา-ก้าวไกล” คงต้องเร่งวางแผนทางการเมืองแล้วว่า จะทำอย่างไร ถึงจะได้เสียงหนุน 376 เสียง

เพราะถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ บอกได้คำเดียว เก้าอี้นายกฯในตึกไทยคู่ฟ้า ที่ “พิธา” ฝันถึง สุดท้าย อาจวืด

และไม่แน่ เผลอๆ จากลุ้นเป็นนายกฯ แต่สุดท้ายอาจกลายเป็น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯก็ได้ ถ้า “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ แล้วการเมืองพลิกขั้ว “เพื่อไทย” ขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาลเอง แล้วถีบ “ก้าวไกล” กระเด็นไปเป็นฝ่ายค้าน!

……………………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

 โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img