วันพุธ, พฤษภาคม 8, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSยุบสภาหรือเสี่ยงลากยาวครบเทอม !!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ยุบสภาหรือเสี่ยงลากยาวครบเทอม !!

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ประกาศใช้ โดย “กำหนดให้มีส.ส.500คน” มาจากการเลือก “ส.ส.เขต 400 คน-ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน” ผ่านบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อให้ประชาชนเลือก “นักการเมืองที่รัก-เลือกพรรคที่ชอบ”

ขณะนี้กำลังเข้าสู่โหมดแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือตตั้ง ส.ส. โยงถึงพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 

แก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข โดยจะกำหนดพรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวทั้งส.ส.เขต-ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหลักเกณฑ์การคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งรวมคะแนนบัญชีรายชื่อของทุกพรรคการเมือง หารด้วยจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ100คน ขั้นต่ำวางเกณฑ์ไว้ 1% เท่ากับ3.8 แสนคะแนนต่อ ส.ส.1คน กว่าจะคลอดมีผลบังคับใช้อย่างช้าไม่เกินเดือน ก.ค.65 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ในระหว่างทางที่กฎหมายลูกยังไม่เสร็จ หมดหวงเกิดอุบัติเหตุการณ์เมือง เพราะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผู้มีอำนาจยุบสภาประกาศสามวันหลังอาหาร “อยู่ครบเทอม”

ล่าสุดย้ำอีกรอบ “ไม่มีการยุบสภา สุดแล้วแต่สถานการณ์ เราอยู่ไปตามรัฐธรรมนูญ” พร้อมบอกถึงสาเหตุต้องอยู่ต่อ “เพราะบ้านเมืองมีปัญหาเยอะแยะที่ต้องแก้ไข หัวใจสำคัญคือการดูแลผู้มีรายได้น้อย ต้องแก้ทั้งระบบให้ได้” และตบท้ายย้ำอีกครั้ง “จะอยู่ครบเทอม”

แต่การเมืองไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ขึ้นอยู่กับบริบททางการเมืองขณะนั้น คนกันเองในรัฐบาลยังออกโรงเตือนกลางวงประชุมครม. “ถ้ากฎหมายลูกประกาศใช้ จะมีการกดดันให้ยุบสภา รัฐบาลต้องเตรียมรับมือทางการเมืองเอง”นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯด้านกฎหมาย สัมผัสการเมืองมาทุกรูปแบบ สะกิดนายกฯเบาๆ ให้รู้ถึงสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้น

ไปดูท่าทีพรรคเพื่อไทยชัดเจน แม่ทัพคนใหม่ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” เปลี่ยนยุทธศาสตร์กลางคัน เดิมเน้นจองกฐินซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ

พอรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้ ยกระดับกดดันให้รัฐบาลยุบสภาทันที ผ่านการเร่งเครื่องทำคลอดกฎหมายลูก 2 ฉบับ และราดน้ำเกลือบนแผลรัฐบาลซ้ำโดยการซักฟอกต่อ

เพราะบาดแผลของรัฐบาลเต็มตัวจากผลงานในรอบ 7 ปี โดยเฉพาะปัญหาปากท้องที่ถูกซ้ำเติมวิกฤติ จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด และปรมณูลูกใหญ่ใกล้ระเบิด คือ “โครงการประกันราคาข้าว” เมื่อไม่จ่ายเงินชาวนาตามสัญญางวดที่กำหนด ม็อบชาวนาจุดติดพรึบทันที

โดยเฉพาะรหัสมอร์ส ซึ่งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ส่งผ่านถึงสังคม จนถูกตีความว่า “รัฐบาลถังแตก” และส่งรหัสมอร์สชุดใหม่มาว่า “คลังจัดเงินให้ชาวนาตามคำขออยู่แล้ว…คลังไม่เคยถังแตกตามที่เป็นข่าว ตอนนี้คลังติดตามการใช้เงินของสถาบันการเงินของรัฐที่ใช้จ่ายโครงการตามนโยบายของรัฐบาล ให้เป็นไปตามระเบียบพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เพื่อทราบว่ามีเพดานเหลือเท่าไหร่ และนำมาจัดสรรให้โครงการที่รอใช้เงินอยู่”

ตอกลิ่มแตกร้าวกับพรรคประชาธิปัตย์ และตอกย้ำ “รัฐบาลใกล้ถังแตก”

“รัฐบาลเข้าปีที่สามแล้ว ตามธรรมชาติการเมืองรัฐบาลผสมจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้….เพราะมีการพูดคุยกันน้อยลง ควรมีการพูดคุยกันให้มากขึ้น” นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกเป็นนัยเส้นทางของรัฐบาลลุงตู่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอด

ไปดูเงื่อนไขการยุบสภา ภายใต้ “บิ๊กตู่” ต้องการทำ “แฮตทริก” เก้าอี้นายกฯ 3 สมัยซ้อนติดต่อกันให้ได้ คือ

1.วันนี้ยังยึดพรรคพลังประชารัฐไม่สำเร็จ เท่ากับ “บิ๊กตู่” อยู่ในสภาพขาลอย ระหว่างคืบคลานยึดพรรคให้ได้

2.ต้องเตรียมสร้างพรรคใหม่ขึ้นมารองรับไปด้วย เช่น พรรคไทยสร้างสรรค์

3.ต้องแก้ปัญหาปากท้องให้ได้ โดยเฉพาะการแก้ปัญหารัฐบาลถังแตก หาเงินมาจ่ายชาวนาตามโครงการประกันราคาข้าว เพื่อสร้างกระแสนิยมกลับคืนมา

ทำเสร็จเมื่อไหร่มีโอกาสยุบสภาสูง แต่หากทำไม่สำเร็จ ขอวัดดวงลากยาวอยู่ครบเทอม

……………

คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก

โดย… #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img