วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกHighlight“การบำบัดทดแทนไต” ทางเลือกรักษาโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“การบำบัดทดแทนไต” ทางเลือกรักษาโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

สมาคมโรคไตฯแนะวิธีการรักษาโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่เหมาะสม ยึดหลักการรักษาบำบัดทดแทนไต

พญ.ศศิธร คุณูปการ อายุรแพทย์โรคไต สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงวิธีการเลือกรักษาโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่เหมาะสมว่า เมื่อก้าวเข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย การทำงานของไตจะลดลงอย่างมาก จนทำให้คนไข้มีอาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตัวบวม ปัสสาวะออกน้อย หายใจเหนื่อยหอบ เป็นต้น การรักษาหลักในระยะนี้คือ “การรักษาบำบัดทดแทนไต” เพื่อให้คนไข้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและอายุที่ยืนยาว

การบำบัดทดแทนไตแบ่งได้เป็น 3 วิธี ได้แก่ 

1.การฟอกไตทางหน้าท้อง (Peritoneal Dialysis :PD) คือ การบำบัดทดแทนไตโดยอาศัยผนังในช่องท้องเป็นตัวกรองในการแลกเปลี่ยนเอาของเสียของจากร่างกาย โดยคนไข้จะต้องได้รับการผ่าตัดวางสายทางหน้าท้องเพื่อเป็นทางนำน้ำยาล้างไตเข้า-ออกจากร่างกาย วิธีนี้สามารถทำเองได้ที่บ้าน แบ่งได้เป็น 2 แบบย่อย คือ ทำด้วยตัวเองหรือใช้เครื่องอัตโนมัติ

• ข้อดี คือ คนไข้สามารถทำเองได้ที่บ้านวันละ 4 รอบ หรือทำวันละครั้งตอนนอนหากใช้เครื่อง ไม่ต้องเดินทางมารพ. บ่อยๆ ความเสี่ยงของการเกิดความดันตกระหว่างฟอกมีน้อย และมีโอกาสติดเชื้อน้อยมากหากทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

• ข้อเสีย คือ การเดินทางไปพักที่อื่นๆ เช่นนอนรพ. ต้องพกเอาน้ำยาล้างไตไปด้วย และหากทำผิดขั้นตอนหรือมีการปนเปื้อนก็มีโอกาสติดเชื้อได้

2.การฟอกไตทางเส้นเลือด (Hemodialysis :HD) คือ การนำเลือดออกจากเส้นเลือดที่ผ่าตัดไว้หรือผ่านทางเส้นฟอกไตแบบชั่วคราวและแบบกึ่งถาวร ผ่านตัวกรองและเครื่องไตเทียม โดยคนไข้มีความจำเป็นต้องมารพ.2-3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือมากกว่าหากมีปัญหาเพิ่มเติม

• ข้อดี คือ ไม่ต้องทำเอง อาศัยพยาบาลไตเทียมที่ได้รับการอบรมอย่างเชี่ยวชาญในการให้การรักษาพยาบาล สามารถกำหนดปริมาณน้ำออกจากร่างกายได้ ใช้เวลาน้อยกว่า/วัน (เฉลี่ย 4ชม./ครั้ง/วัน)

• ข้อเสีย คือ ต้องเดินทางไปรพ. /คลินิกไตเทียมบ่อย เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มีปัญหาความดันตกได้ง่าย หรือหากมีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ ก็อาจมีความเสี่ยงความดันตก หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะเพิ่ม อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของการการติดเชื้อผ่านทางสายฟอกเลือดทั้งแบบชั่วคราวและแบบกึ่งถาวร หากดูแลรักษาสายฟอกไตผิดวิธีหรือใช้นานเกินกำหนด

3.การปลูกถ่ายไต (Kidney transplantation :KT) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มคุณภาพชีวิตและยืดอายุขัยของคนไข้ไตเรื้อรังระยะสุดท้ายได้ยืนยาว โดยสามารถแบ่งเป็นการปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาคมีชีวิต (เครือญาติ สามี ภรรยา) หรือผู้บริจาคสมองตาย

• ข้อดี คือ การรักษาวิธีนี้ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด ไม่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือฟอกไตในการดำเนินชีวิต

• ข้อเสีย คือ ต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกันตลอดระยะเวลาที่ไตบริจาคยังทำงานอยู่ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาจมีข้อแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัด เช่นการเสียเลือด การปฏิเสธอวัยวะ เป็นต้น และการรอคอยอวัยวะเป็นระยะเวลานานเนื่องจากผู้บริจาคมีจำนวนน้อยกว่าผู้รอรับซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย

การเลือกวิธีบำบัดทดแทนไตทั้งสามวิธีนั้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน ได้แก่ โรคประจำตัวของคนไข้ ภาระในการเดินทางไป-กลับสถานพยาบาล ความเชี่ยวชาญของบุคลากรของสถานพยาบาลใกล้บ้าน และความเห็นจากทีมแพทย์ผู้ดูแล

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img