วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯบอกต้องรับฟังผลโพลสะท้อนความเห็นปชช.หลังพบ อยากให้ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯบอกต้องรับฟังผลโพลสะท้อนความเห็นปชช.หลังพบ อยากให้ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ

‘นายกฯ ‘บอกต้องรับฟังผลโพลสะท้อนความเห็นประชาชน หลังพบ อยากให้ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ มองอาจคลาดเคลื่อน ไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริงทั้งหมด ลั่น ไม่พอใจผลงานตัวเอง​-ครม.​ ชี้ ยังทำได้ดีกว่านี้​ มั่นใจมีงบแล้วทำผลงานเปรี้ยงขึ้น

วันที่ 24 มี.ค.67 นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา​ ถึงผลสำรวจความนิยมของนิดาโพล ล่าสุดพบว่า อันดับ 1 ที่ประชาชนสนับสนุนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่วนนายเศรษฐา​ อยู่ในลำดับที่ 3 โดยกล่าวว่า เราก็ต้องรับฟังโพล เพราะผลโพลสะท้อนความคิดของประชาชน แต่การทำโพลมีหลายแบบ เช่น ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีความไม่แน่นอน เช่นเรื่องกลุ่มตัวอย่างที่อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริง

“แต่ก็ถือเป็นโพลโพลหนึ่ง​ ซึ่งเราก็ต้องรับฟังและมีหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป ถึงแม้จะทำงานมา​ 6-7 เดือนแล้วก็ตาม อีกทั้งงบประมาณปี​ 2567 ก็เพิ่งผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร​ เมื่อวันศุกร์นี้เอง​ ซึ่งก็จะใช้ระยะเวลาอีกเดือนหนึ่งกว่าจะใช้งบประมาณได้ อย่างในวันนี้ อสม.ก็เพิ่งทราบว่า​งบประมาณเพิ่งผ่าน​ ก็จะได้เงินค่าตอบแทนเพิ่ม​ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจรัฐบาลก็ได้​ แต่หารู้ไม่ว่า ที่จริงแล้วมีขั้นตอน ทางสภาฯ เรื่องการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าต้องตั้งใจทำงาน และรับฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก

ส่วนที่ผ่านมา พอใจการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ ผมไม่พอใจการทำงานของตัวเอง ไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีทุกท่าน เพราะทุกอย่างทำให้ดีขึ้นได้อีก เพราะอันนี้คือชีวิตจริง เราต้องไม่พอใจเรื่องพวกนี้ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่ ในทุกเรื่อง ตัวเราเองต้องพยายามทำต่อ ถึงได้ลงมาในพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน จะได้นำไปปรับวิธีการทำงาน

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่หลังงบประมาณปี67 ผ่านสภาฯ การทำงานจะเปรี้ยงขึ้นกว่าเดิม นายกรัฐมนตรี ตอบทันทีว่า ”มั่นใจครับ”

ส่วนจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อทำให้เกิดกระแสขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนไม่อยากใช้คำว่าอิงกับกระแส​ ตนว่าเรื่องเสียงสะท้อนทุกอันต้องรับฟัง และต้องมีการปรับกลยุทธ์ แต่ไม่ใช่ปรับเพื่อให้กระแสดีขึ้น เป็นการปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ปรับกลยุทธ์ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ปรับกลยุทธ์เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมดีขึ้น มีการปรับตลอด

เมื่อถามว่า ต้องเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาทำงานแทบทุกวัน ไม่มีวันหยุด แต่หลายผลงานประชาชนอาจไม่เห็น ทำให้ผลสำรวจออกมาเป็นเช่นนี้ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี-ทีมสื่อสาร คงเอาข้อมูลมาวิเคราะห์กันอีกทีว่า ตรงไหนเราพูดน้อยเกินไปหรือไม่ เราทำเรื่องเยอะเกินไปหรือเปล่า เราเปิดงานเยอะเกินไปหรือเปล่า เราต้องโฟกัสบางเรื่องให้เยอะขึ้นหรือไม่ ทำเรื่องที่จะโดนใจประชาชน และการที่รัฐมนตรี 5-6 คนมาลงพื้นที่ ก็พยายามที่จะผลักดันวิธีการแก้ไขปัญหาของประชาชน และเชื่อว่ามาโคราชอีกครั้ง ช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ น่าจะมีผลงานคืบหน้าได้ เพราะงบประมาณแล้วออกแล้ว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img