วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlight“SCBX-ซีพี-กัลฟ์”ประกาศลงสนามชิงไลเซนส์ Virtual Bank
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“SCBX-ซีพี-กัลฟ์”ประกาศลงสนามชิงไลเซนส์ Virtual Bank

Virtual Bank หรือธนาคารไร้สาขาแข่งเดือด หลังธปท.เปิดให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-19 ก.ย.67 โดยSCBX-ซีพี-กัลฟ์ ประกาศลงสนาม

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ หรือ SCBX เปิดเผยความคืบหน้าการตั้ง หรือธนาคารไร้สาขาว่า บริษัทฯ เตรียมประกาศพันธมิตรรายที่ 2 จากจีนที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีเพื่อเตรียมยื่นขอใบอนุญาต Virtual bank ในอีก 1- 2 วันนี้ จากที่ผ่านมา เอสซีบี เอกซ์ เซ็นสัญญาร่วมกันกับ KakaoBank ธนาคารดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ไปแล้วเมื่อกลางปีก่อน

ทั้งนี้ การที่มีหลายรายสนใจขอไลเซนส์มองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพื่อร่วมกันช่วยเหลือกลุ่มที่ยังไม่เข้าถึงบริการทางการเงิน รวมถึงผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น เพราะการดูการให้บริการทางการเงินปัจจุบันบนหลายไลเซนส์ทั้งการให้บริการผ่านธนาคาร ผ่านธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ฟิโก้ไฟแนนซ์ ล้วนเป็นธุรกิจที่อยู่ในระบบมานาน แต่ไม่สามารถทำให้เข้าถึงทางการเงินได้ ดังนั้นการเข้ามาทำ Virtual bank มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแรกที่ ธปท.โฟกัส เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่ม Underserved และเอสเอ็มอี

อย่างไรก็ตาม มองว่าความสนใจในการเข้ามาขอจัดตั้ง Virtual bank อาจไม่ได้เป็นการแข่งขัน แต่ทุกองค์กรมาด้วยจุดแข็งตัวเอง แต่ท้ายที่สุดมองว่าคนที่ได้ประโยชน์จะเป็นลูกค้าและประชาชน

ส่วนของทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท ถือเป็นส่วนที่แยกจากเงินของแบงก์ โดยใช้สำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ได้รวมอยู่ในทุนแบงก์ที่มีกว่า 4 แสนล้านบาท ที่ใช้สำหรับการปล่อยสินเชื่อ

สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจของ เอสซีบี เอกซ์ ปัจจุบันให้ความสำคัญกับ AI มาก โดยเชื่อมั่นว่า AI กำลังเปลี่ยนโลก โดยตั้งเป้าในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมีรายได้จากเอไอ สัดส่วน 75% ดังนั้นจำเป็นต้องนำ AI มาในกระบวนการทำงานทั้งหมด ทั้งกลางบ้าน หน้าบ้าน หลังบ้าน

ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ใต้โลกที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งมาจาก Geopolitics , Climate change หรือ Disruptive technology ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงให้เกิดปัญหาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ ความผันผวน หรือ VUCA ที่เกิดขึ้น ล้วนกระทบต่อการธุรกิจ และมีผู้ได้เปรียบเสียเปรียบทั้งสิ้นยังไม่รวมถึง การเข้ามาของ Disruptive technology ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เหล่านี้ทำให้คนอื่นๆ เข้ามาแข่งขันได้ยากมากขึ้น หากยังทำธุรกิจแบบเดิม หรือที่เคยพูดถึง เหมือนกบที่ถูกต้ม ที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้วที่จะปรับตัว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารไทยพาณิชย์ ในหลายปีที่ผ่านมา ไม่เน้นการเติบโตหรือการขยายตัวของสินเชื่อ และไม่เน้นการเก็บค่าธรรมเนียมให้บริการแพงขึ้น แต่เน้นที่การลงทุน การปรับลดต้นทุนของธนาคาร ทำให้ต้นทุนของธนาคารลดลงกว่า 10,000 ล้านบาท ด้วยการทำให้องค์กรหยุดลงทุนโดยไม่มีเหตุผล และปรับกระบวนการทำงานทำให้ธุรกิจดั้งเดิมที่เป็น Cash Cow แข็งแรงและทนทาน ยืดหยุ่นต่อการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

ทั้งนี้เพราะการทำให้องค์กรที่มีอยู่เดิมเป็น Cash Cow ได้มีสิ่งสำคัญที่ต้องการทรัพยากรไปพัฒนาต่อนอกธุรกิจดั้งเดิม ซึ่งจะทำให้ ธุรกิจต่อเนื่องและมีโอกาสทดลองโดยไม่เข้าไปดิสรัปชันสิ่งที่ไม่ควรดิสรัปชัน ส่วนสิ่งที่เป็นเรื่องใหม่ในประเด็นธุรกิจใหม่ นิวบิซิเนส หรือธุรกิจที่เกิดจากความสามารถใหม่ รวมถึงสตาร์ตอัปที่ไม่มีกรอบกติกา หรือวัฒนธรรมดั้งเดิม ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะเกิดความสามารถใหม่ๆได้ แต่ควรเริ่มต้นธุรกิจ ด้วยการเอาเทคโนโลยี เข้ามาเป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่าย Cost Structure ในการดำเนินธุรกิจ เพราะโลกของการแข่งขัน ไม่สามารถรู้ได้ว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้นถูกหรือไม่

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (กลุ่มซีพี) กล่าวว่า ปัจจุบันเห็นผู้ให้บริการทางการเงิน กำลังก้าวไปสู่เทคโนโลยีใหม่ทางการเงินมากขึ้น เช่นเดียวกันธนาคาร สถาบันการเงินที่เริ่มประกาศความสนใจในการทำ Virtual bank มากขึ้น เพื่อให้กลุ่มฐานรากเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

ส่วนการขอจัดตั้ง Virtual bank ปัจจุบันบริษัทอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อม ส่วนที่จะจับมือกับพันธมิตรรายอื่นเพื่อจัดตั้ง Virtual bank หรือไม่ ณ วันนี้ยังไม่มี แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่บริษัทในเครือมีความพร้อมอยู่แล้ว และมีพาร์ตเนอร์ชิปที่แข็งแกร่ง คือ ทรูมันนี่ อยู่แล้ว ยังรวมไปถึง แอนท์ กรุ๊ป เป็นต้น

“การจับมือทำ Virtual bank ร่วมกับรายอื่น วันนี้ยังไม่มี แค่เราก็ไม่ได้ปิดกั้น เพราะเราเองมีพาร์ตเนอร์ชีพระดับทรูมันนี่อยู่แล้ว และมีพาร์ทเนอร์ชีฟ เช่น แอนด์ กรุ๊ป ส่วนความพร้อมในการยื่นขอไลเซนส์ วันนี้กำลังรวบรวมความพร้อมอยู่”

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัฟล์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULLF กล่าวว่า ธุรกิจ Virtual Bank บริษัทฯ ร่วมมือกับ เอไอเอส และธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะยื่นภายในปี 2567 ด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท เนื่องจากกัลฟ์มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ส่วนเอไอเอส ถือมีความพร้อมความเข้าใจในสายธุรกิจดีจากลูกค้า 45 ล้านเลขหมาย ขณะที่กรุงไทยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก

สำหรับหลักเกณฑ์ที่ ธปท. ออกถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้น โดยทำให้การเข้าถึงคนมากขึ้น ซึ่งจะสร้างโอกาสให้กับผู้ที่ไม่มีโอกาสกู้เงินได้ ผ่านการใช้ข้อมูลมือถือ ในขณะที่ธนาคารกรุงไทยจะเช็คได้ว่าจะมีความสามารถให้กู้ได้ตอนไหนบ้าง ซึ่งถือเป็นโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยไม่แพงมาก

ทั้งนี้ อาจจะหาพันธมิตรเพิ่มในอนาคตเพื่อมาช่วยสนับสนุน อีกทั้งการที่ ธปท.เข้มงวดกฎระเบียบถือว่าดี จะสนับสนุนให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ยิ่งเรามีเทคโนโลยีที่พร้อมจะสร้างความมั่นใจมากขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img