ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 29.44 จุด นักลงทุนผวาสงครามตะวันออกกลาง-บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ทำให้เฟดจะลดดอกเบี้ยช้าลง มองแนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่ารีบาวด์
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,366.94 จุด ลบ 29.44 จุด หรือ 2.11% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,380.12 จุด ต่ำสุด 1,363.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62,396.97 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง กังวลปมขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านปะทุรุนแรง ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ดีดขึ้นมาแรงหลังการเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐออกมาค่อนข้างดีกว่าคาด
“จำนวนหุ้นปรับขึ้น 90 บริษัท จำนวนปรับลง 489 บริษัท โดยทุก Sector ปรับลงในทางเดียวกัน หลัก ๆคือ กลุ่มธนาคาร (SCB,TTB) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) กลุ่มค้าปลีก(CPAXT, CPALL, CRC) กลุ่มขนส่ง AOT “
สำหรับหุ้นแบงก์ที่ปรับตัวลง เช่น SCB -8.23% ( ขึ้น XD 7.84), KTB -5.2% KTB(XD 0.868), TTB -3.8% TTB(XD 0.055) นอกจากนี้หุ้น DELTA -6.2%, GULF -3.4%, EA -6.9%, GPSC -5.2%
โดยหุ้นกลุ่มที่ Sensitive กับอัตราดอกเบี้ย และมีมีหนี้สกุลต่างประเทศสูง ปรับตัวลง รับ Bond yields สหรัฐที่เร่งขึ้นหลังประธาน Fed คุณ Powell ให้มุมมอง Hawkish ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้ามีจิตวิทยาลบจากประเด็นเงินบาทที่อ่อนค่า 36.8 อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 6 เดือน ยังมองบวกต่อ GPSC แนะนำทยอยสะสม
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่าต่างประเทศขายสุทธิ 6,395.39 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 623.76 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 6,802.04 ล้านบาทบัญชีบล. ซื้อสุทธิ 217.11 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,124.35 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,786.06 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,835.00 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท ลดลง 9.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,751.19 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 4.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,722.76 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
