วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
หน้าแรกHighlightขออย่ากังวลตั้งรพ.สนามที่สโมสรตร. “หมอหนู”ยันยึด‘ความปลอดภัยปชช.’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ขออย่ากังวลตั้งรพ.สนามที่สโมสรตร. “หมอหนู”ยันยึด‘ความปลอดภัยปชช.’

“หมอหนู” ยัน “สธ.” พร้อมหนุนตั้งรพ.สนามที่สโมสรตำรวจ รองรับผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ติดเชื้อโควิด ก่อนส่งกลับปท. ขออย่ากังวล-สบายใจ ยึดความปลอดภัยปชช.เป็นหลัก ส่วนการผลิตวัคซีนในไทย คาดผลิตเองได้ 30 ล้านโดสต่อปี หวังกระจายไปเมืองท่องเที่ยว เพื่อให้เปิดประเทศได้

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่สโมสรตำรวจ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ต้องกักที่ติดเชื้อโควิด ที่รอการส่งกลับประเทศว่า ตนทราบเรื่องแล้ว ได้มีการประสานงานมาจากพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) ซึ่งการตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ที่ติดเชื้อจากการลักลอบเข้าเมืองมา และอยู่ภายใต้การควบคุมและเตรียมการบริหารจัดการอย่างดี ทางตำรวจก็มีแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจดูแลอยู่แล้ว แต่หากมีการร้องขออะไรมา ทางกระทรวงสาธารณสุขก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน แต่ได้ให้คำแนะนำถึงแนวทางต่างๆ ว่าควรจะปฏิบัติ กับผู้ที่เข้ามารักษาในโรงพยาบาลสนามอย่างไร ทั้งนี้ไม่อยากให้มองถึงจำนวนยอดรวมของผู้ติดเชื้อ แต่ให้ดูว่าการกระจายไปอยู่นอกเหนือการควบคุมหรือไม่ ตอนนี้ไม่มีการกระจาย แต่เป็นการติดเชื้อเฉพาะกลุ่ม หรือคลัสเตอร์ ที่ระบบควบคุมสามารถไปดูแลได้ ยืนยันว่าขณะนี้ไม่ใช่การแพร่ระบาดในระลอกที่ 3

เมื่อถามว่า จะต้องทำความเข้าใจกับชุมชนโดยรอบสโมสรตำรวจ ที่ใช้ตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า โรงพยาบาลสนามตั้งอยู่ในสโมสรตำรวจ มีรั้วรอบขอบชิด และบริเวณใกล้เคียงก็ไม่ได้มีชุมชน ขออย่ากังวล และการตั้งโรงพยาบาลสนามก็ต้องมีการรักษาระยะห่างกับชุมชน อาจจะเป็นกี่ร้อยเมตร หรือเป็นกิโลเมตร เช่นเดียวกับการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ที่ต้องเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร และส่วนใหญ่คนที่เข้าไปในโรงพยาบาลสนาม ก็คือผู้ที่ไม่แสดงอาการ เพราะถ้าเป็นผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการ ก็จะเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลัก เพื่อให้การรักษาตามขั้นตอนทางการแพทย์ ขอให้สบายใจและกรมควบคุมโรคก็ดูแลเรื่องนี้มาตลอดและต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลักสำคัญที่สุด

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการที่องค์การเภสัชกรรม พัฒนาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย ที่พัฒนาโดยคนไทยว่า เป็นการพัฒนาร่วมกับสถาบันการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมได้รายงานว่า เป็นการพัฒนาจากเชื้อตายและใช้ไข่ไก่สด ทางองค์การเภสัชกรรมมีโรงงานผลิตวัคซีน จึงมีการนำมาวิจัยและพัฒนาโดยการใช้ทุนขององค์การเภสัชกรรมเอง และวันนี้ได้มีการฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครกว่า 100 คน ซึ่งกว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้ได้ จะต้องผ่านขั้นตอนตามมาตรฐาน และถ้าทำตรงนี้สำเร็จ ก็จะมีวัคซีนของประเทศไทยและมีคนไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เบื้องต้นระบุว่าสามารถผลิตได้ 30 ล้านโดสต่อปี แต่ในอนาคตกำลังการผลิตอาจจะขยายเพิ่มขึ้นได้อีก วันนี้ขอให้มั่นใจว่าเรื่องวัคซีนนั้น ไม่ใช่ประเด็นปัญหา แต่ตอนนี้ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร จึงจะเปิดประเทศได้ และต้องกระจายวัคซีนไปยังเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ภูเก็ต สมุย ซึ่งในเรื่องวัคซีนขณะนี้เป็นไปตามแผนและกำหนดการที่ได้วางไว้ ไม่มีอะไรล่าช้า ทุกอย่างสอดคล้องตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ถ้าในอนาคตวัคซีนขององค์การเภสัชกรรมสำเร็จ ก็อาจจะมาเสนอให้ทางภาครัฐ ได้พิจารณาให้การสนับสนุนต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img