วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlight''ภูมิธรรม''วอนอย่าให้โอกาส'เปลี่ยนประเทศ' ต้องเป็นหมัน กาพท.ทั้งสองใบ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”ภูมิธรรม”วอนอย่าให้โอกาส’เปลี่ยนประเทศ’ ต้องเป็นหมัน กาพท.ทั้งสองใบ

‘ภูมิธรรม’หวั่นในพื้นที่ที่มีการแข่งขันตัดคะแนนกันเอง ความหวังในการเปลี่ยนรัฐบาลกลายเป็นหมันได้ ‘ระบอบประยุทธ์’กลับมาอีก ต้องกาพท.ทั้งสองใบประเทศไทยเปลี่ยนทันที

เมื่อวันที่  12 พ.ค.66 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่าอย่าให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเป็นหมัน ไล่ระบอบประยุทธออกไป เลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล

การเลือกตั้งในวันที่ 14 พค 66 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมไทย เพราะเป็นการเลือกตั้งที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน โดยยังคงมีกลไก รธน.ที่กำหนดให้ สว 250 คน มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี อันเป็นแต้มต่อที่สำคัญในการสืบทอดอำนาจต่อเนื่องของระบอบประยุทธ์

นั่นหมายความว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมสามารถจับมือรวมกันแค่ 126 เสียง ก็สามารถชนะการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้แล้วและประเทศไทยก็จะมีนายกรัฐมนตรีในแบบเดิมที่ทำให้พี่น้องประชาชนต้องทนทุกข์ทรมาน มานานถึง 8-9 ปี

แต่หากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง จะตั้งรัฐบาลได้จริง จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียงของ ส.ส. ให้ได้มากเกิน 250 คน และจะมั่นใจมากกว่าหากได้ ส.ส. มากถึง 300 คน ซึ่งพรรคการเมือง ที่มีโอกาสจะทำให้เป็นรูปธรรมได้จริงๆ คือ “พรรคเพื่อไทย”

แม้ว่าในช่วงหลังหลายโพลจากหลายสำนักระบุว่าบางพรรคมาแรงแซงพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่หากดูจากข้อมูลในพื้นที่ซึ่งเป็นคะแนนจริงๆ ไม่ใช่คะแนนในอากาศ ซึ่งเราติดตามอย่างใกล้ชิด ยังบ่งชี้ว่า พรรคเพื่อไทยยังคงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง

ทำไมถึงมั่นใจอย่างนั้น เพราะจริงอยู่กระแสอาจมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกของพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และเขตเมืองใหญ่ แต่ในจำนวนเขตเลือกตั้ง 400 เขตนั้น 300 กว่าเขตเป็นพื้นที่ อบต. เทศบาลตำบล กระแสไม่มีผลมากเท่ากับความผูกพันและการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่าง ส.ส. กับ ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ

ดังนั้น จำนวน สส เขตพื้นที่ จึงเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง และ ต่อการจัดตั้งรัฐบาล

ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันซึ่งจะทำให้เกิดการตัดคะแนนกันเอง ปล่อยให้ตาอยู่อย่างลุงและเครือข่ายชนะไปย่อมไม่เกิดผลดี

ผมไม่อยากให้ความหวังในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของพี่น้องประชาชนต้องกลายเป็นคะแนนตกน้ำและตาอยู่ได้ชัยชนะไป นั่นจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก

ถ้าความหวั่นเกรงของผมเป็นจริง เพราะบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นง่ายนัก หากการตัดสินใจเลือกที่จะกาบัตรนั้นทำให้ ความหวังที่จะให้เกิด ”การเปลี่ยนแปลง”กลายเป็นหมัน อย่างน่าเสียดาย

เราจะได้ ”ระบอบประยุทธ”กลับมาและต้องทนอยู่ต่อไปอีก 4 ปี…

ผมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย คือคำตอบที่เป็นจริงในการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความหวัง และ เกิดการแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่เป็นจริง เพราะปัญหาของประเทศวันนี้อยู่ในขั้นวิกฤติระดับ “โคม่า” ต้องการทีมมืออาชีพเข้ามาแก้ไข ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยพิสูจน์ให้เห็นเป็นผลงานเชิงประจักษ์มาแล้ว

วันนี้ พรรคเพื่อไทยมีทั้งผู้นำที่พร้อม มีนโยบายที่พร้อม และมีทีมทำงานที่พร้อม 14 พ.ค 66 กาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img