วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
หน้าแรกHighlight“จตุพร”เตือน“อย่ากระพริบตาการเมือง” ส่อเดือดลามปิดทาง“ยิ่งลักษณ์”กลับบ้าน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จตุพร”เตือน“อย่ากระพริบตาการเมือง” ส่อเดือดลามปิดทาง“ยิ่งลักษณ์”กลับบ้าน

สว.กดดัน “เศรษฐา” ท้าอย่าทิ้งนายกฯ ก่อนเปิดซักฟอกทั่วไป ส่วนเกมเพื่อไทยใช้โอกาส “ทักษิณ” ไปเชียงใหม่ ดึงมวลชนหนุนเบี้ยวดีล อย่ากระพริบตาการเมืองส่อเดือดถี่กระชั้น ลามปิดทาง “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้าน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุว่า เหตุการณ์ทางการเมืองถัดจากนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง เมื่อ สว.เสรี สุวรรณภานนท์ บอกให้นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่เป็นนายกฯ ให้ถึงวันที่ 25 มี.ค. ซึ่งเป็นวันอภิปรายทั่วไปฯ ของ สว. ขณะที่ สว.วันชัย สอนศิริ แม้เคยเชียร์นายเศรษฐาและทักษิณ ชินวัตร มาตลอดและต่อเนื่องตั้งแต่เป็นรัฐบาลได้ 7 เดือน แต่ยังกลับหลังหัน โดยล่าสุดถามอย่างมีนัยยะว่า จะเปลี่ยนประเทศไทยตอนกี่โมง

“ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีที่มาที่ไป เพราะการเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐา ผิดปกติตั้งแต่วันที่ทักษิณเข้ามาไทยเมื่อ 22 ส.ค. 66 โดย สว. 152 เสียงจากฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ แต่งตั้งไปโหวตหนุน ซึ่งที่มาเรื่องนี้เป็นการฮั้วกันมาก่อนทั้งสิ้น”

นายจตุพร ย้ำว่าการดีลให้ทักษิณกลับบ้านโดยไม่ติดคุกสักวัน แล้วขณะนี้ได้รับการพักโทษไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้าตามความปรารถนาแล้ว ส่วนการให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ กลับไม่อนุญาตให้ใช่้จ่ายงบประมาณปี 67 สักบาทเดียว แต่ให้เดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่น ถ้าเปรียบเทียบในช่วงเวลาเป็นายกฯ 7 เดือนแล้ว ไม่มีอดีตนายกฯ คนใดสู้ได้เลย

ขณะที่การเดินทางในประเทศของนายเศรษฐาที่ไปบ่อยมากคือ เชียงใหม่กับภูเก็ต แต่หางานที่เป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ยกเว้นการแต่งตัวเป็นเฟชั่นเอาผ้าขาวม้าพันคอขณะที่ใส่สูทเพื่ออธิบายการปรับโฉมเป็นซอฟต์พาวเวอร์แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมพลเลย

“ถ้าเศรษฐไม่ไป ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มาไม่ได้ โดยไม่แตกต่างจากหลักการเดียวกับการดีลเข้าประเทศของทักษิณในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไม่ใช่กลับบ้านในวันที่เศรษฐา เป็นนายกฯ ดังนั้นยิ่งลักษณ์จะกลับมาในวันที่เศรษฐา ไม่ได้เป็นนายกฯ เท่านั้น”

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อ สว.จะหมดวาระในวันที่ 11 พ.ค. 67 ดังนั้น การเร่งให้นายเศรษฐา ทำตามดีลที่ตกลงกันไว้ โดยเปิดอภิปรายทั่วไปกดดันในวันที่ 25 มี.ค.นี้ เพื่อให้สละตำแหน่งนายกฯ ก่อน สว.จะหมดวาระ หากผิดดีลแล้วจะกลายเป็นปัญหาปิดทางให้ยิ่งลักษณ์ กลับบ้านและลามถึงทักษิณต้องเดือดร้อนด้วย

อีกทั้งกล่าวว่า เมื่อปักธงให้พ้นจากนายกฯ ก่อน สว.หมดวาระแล้ว ประเด็นน่าสนใจจึงอยู่ที่การนำข้อครหาของนายเศรษฐา เมื่อทำธุรกิจมาพูด ซึ่งจะทำให้เกิดความบอบช้ำทางการเมืองขึ้นอย่างยากจะหลีกเลี่ยงได้ นอกจากนี้ถัดไปอีกประมาณ 8-9 วัน ฝ่ายค้านจะลงดาบรัฐบาลอภิปรายทั่วไปอีกครั้ง ดังนั้น นายกฯ เศรษฐาคงต้องช้ำหนักเข้าไปอีกซ้ำสอง

“สว.เสรี สุวรรณภานนท์ บอกให้นายเศรษฐา ได้อยู่ให้ถึงวัน สว.อภิปราย (25 มี.ค.) ซึ่งแสดงว่าต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนไว้ในการอภิปราย อีกอย่างผมย้ำมาหลายครั้งอยากให้เบี้ยวดีลกัน (เศรษฐา ยังอยู่เป็นนายกฯ) จะได้เห็นคดีเก่าถูกงัดมาจัดการตั้งแต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เคยทำงาน แล้วยังลามไปปิดโอกาสยิ่งลักษณ์ ได้กลับบ้านอีกด้วย”

นายจตุพร กล่าวว่า การเมืองในยุคตระบัดสัตย์ไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะมีเรื่องผิดปกติเกิดมาถี่กระชั้น ทั้งอัยการสูงสุดเรียกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มาให้ปากคำกรณียื่นยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ และการเมืองในยุคนี้ถ้าจะหักกันแล้ว มักเกิดเรื่องขึ้นในวันสุดท้ายแล้วยังสอดคล้องกับ ครม.ต้องตัดสินใจจะกู้เงินมาแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีแผนสำรองประกันความเสี่ยงถูกเบี้ยวดีลไว้อีกในการกดดันในวันอภิปรายของ สว.

ส่วนทักษิณ ไปเชียงใหม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่า หากต้องการความเอิกเกริกแล้วสามารถทำที่บ้านจันทร์ส่องหล้าได้ ไม่จำเป็นต้องไปเชียงใหม่ ดังนั้น ในการปลุกคนเสื้อแดงให้มาต้อนรับที่เชียงใหม่ ย่อมทำให้ทักษิณคิดหนักเช่นกัน แต่จะเร่งให้เกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นหรือไม่ เพราะกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากระทิงแดงนัดรวมตัวกัน เพื่อต่อต้านทักษิณขัดพระบรมราชโองการลดโทษที่ไม่ยอมติดคุกสักวัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img