วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlightนายกฯยันปัญหาดราม่าใน“สตช.”จบแล้ว ยันไม่ไปแทรกแซงกระบวนการพิจารณา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯยันปัญหาดราม่าใน“สตช.”จบแล้ว ยันไม่ไปแทรกแซงกระบวนการพิจารณา

นายกฯยันปัญหาดราม่าในสตช.จบแล้ว ขอให้ตร.ทุกคนสามัคคี และไม่อยากให้ฝักใฝ่ตร.คนใดคนหนึ่ง ยอมรับ เป็นการตัดสินใจที่ยาก ไม่อยากทำ ยืนยันไม่มีธงในการตรวจสอบ และจะไม่มีการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการพิจารณา

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการทั่วประเทศ ว่า คำสั่งที่ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการชั่วคราว 60 วัน ก็ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และหลังจากนี้อยากให้เกิดความสามัคคี ไม่อยากให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทุกคนไปฝักใฝ่กับคนใดคนหนึ่ง เพราะภารกิจใหญ่ คือ การดูแลประชาชนเป็นหลัก รวมถึงนโยบายการปราบปรามพนันออนไลน์ เรื่องยาเสพติด หนี้นอกระบบ อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ดูแลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

“ผมเชื่อว่า แต่ละคนจะรักใคร ชอบใคร ก็แตกต่างกันไป บางคนรักคนนี้ บางคนชอบคนนี้ แต่ว่าเราอยู่ตรงนี้เพื่อพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเรื่องรักเก็บไว้ในใจดีกว่า รวมถึงการก้าวก่าย หรือให้ข่าวไม่อยากให้มีอีกแล้ว เราไม่มีหน้าที่ให้ข่าวเพื่อสนับสนุนคนใดคนหนึ่ง เรามีหน้าที่ที่จะดูแลพี่น้องประชาชน” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 คนขึ้นมาตรวจสอบจะมีผลผูกพันธ์กับบทลงโทษที่จะตามหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างยึดตามกระบวนการยุติธรรมและตามกฏหมาย ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะทำหน้าที่สืบหาความจริงก่อน และต้องดูผลว่า เป็นอย่างไร และไม่อยากจะพูดไปไกล เพราะทั้งพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และต้องให้เกียรติทั้งสองท่าน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งธงในการสอบสวนหรือจะเข้าไปแทรกแซงในการพิจารณา

“ต้องดูผลที่ออกมาด้วย อย่าเพิ่งไปบอกว่าผลเป็นอย่างไร และต้องทำอย่างไรต่อ อย่างที่บอกเราอย่าไปชี้นำกระบวยการยุติธรรม หรือให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความไม่สบายใจ วันนี้เราอยากให้สังคมสบายใจ ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถเดินไปข้างหน้าได้ ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับกรอบเวลาพิจารณาเรื่องนี้อยู่ที่ 60 วัน แต่หากผลการตรวจสอบได้เร็วกว่านั้นได้ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะได้ให้ความเป็นธรรมกับ 2 คน และไม่สามารถยืนยันได้ว่า เมื่อครบ 60 วันแล้วทั้งสองคนจะได้กลับมาหรือไม่ แต่หากพิสูจน์แล้วว่า ไม่มีปัญหาก็สามารถกลับมาได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่ทราบว่า พายุที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมใต้น้ำหรือไม่ โดยเฉพาะการบริหารราชการต่างๆ และไม่ตอบคำถามว่า นายกรัฐมนตรีเอาเรื่องนี้อยู่หรือไม่

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สะเทือนต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ในฐานะที่กำกับดูแลมองเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้่ต้องให้ประชาชนเป็นคนพูด เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นตนมีหน้าที่ในการบริหารจัดการ

“ผมว่าวันนี้ เรื่องนี้เราจบกันได้เดินไปข้างหน้าดีกว่า ดูแลปัญหาพนันออนไลน์ เรื่องบ่อน เรื่องโจร ควรโฟกัสเรื่องที่ควรโฟกัสดีกว่า ทั้งสองท่านก็ถูกโยกอยู่ในสำนักนายกฯแล้ว ให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้ อย่าไปกดดัน อย่าไปชี้นำอะไรเลยดีกว่า ปล่อยให้เดินตามเรื่องของมันดีกว่า” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็มีภารกิจหนักรออยู่ เพราะประชาชนก็เดือดร้อนก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป และช่วงบ่ายวันนี้ทางรักษาการ ผบ.ตร.ก็จะมีการประชุมมอบนโยบายให้แต่ละหน่วยงาน ส่วนเรื่องดราม่าต่างๆจบไปแล้ว ก็ให้เดินไปตามกระบวนการยุติธรรม และเชื่อมั่นน่าจะปราศจากการแทรกแซงด้วยและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยาก ลำบากใจ และไม่อยากทำ แต่หวังว่าปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในลักษณนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้ต้องการมาสร้างภาพ เพราะภาพที่ออกไปสะท้อนการกระทำและภาพที่ออกไปอย่างไร ถึงเวลาจะออกมาเอง

ส่วนที่มีการมองว่า คำสั่งย้ายเป็นเพียงการจบปัญหาแต่ไม่ได้นำปัญหามาแก้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้การกระทำเป็นการบ่งบอกว่าดีขึ้นหรือไม่ และเป็นการให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่

ส่วนที่มีการเด้งนายตำรวจระดับใหญ่พร้อมกันถึง 2 คนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มองอย่างไร แต่ละเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ก็มีตัวแปรที่แตกต่างกันไป แต่ละผู้นำก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป บริบทต่างๆก็ต่างกันไป

ทั้งนี้ เหตุการณ์การตรวจสอบที่เกิดขึ้นในอดีตเคยมีการใช้คณะกรรมการจากภายนอกตั้งขึ้นมาสอบสวนแต่สุดท้ายเรื่องก็ยืดเยื้อและต้องกลับมาใช้คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำถามถูกต้องแล้วเรื่องนั้นเป็นอดีตแต่ตอนนี้เป็นปัจจุบัน ผู้นำคนละคนกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มีการแบ่งงานให้กับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะยังไม่มีเวลาและมีภารกิจงานตลอด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img