วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
หน้าแรกHighlightแจงเครื่องบินเมียนมาแค่ขน‘เอกสาร’กลับ ‘รมว.กต.’ยืนยันไม่มีกำลังพล-อาวุธ-จนท.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แจงเครื่องบินเมียนมาแค่ขน‘เอกสาร’กลับ ‘รมว.กต.’ยืนยันไม่มีกำลังพล-อาวุธ-จนท.

‘ปานปรีย์’ เผยเครื่องบินเมียนมา ขนเฉพาะเอกสารกลับเท่านั้น ไม่มี ‘กำลังพล-อาวุธ-เจ้าหน้าที่’ ทุกอย่างทำถูกต้องตามขั้นตอน ยันเป็นเครื่องพาณิชย์ ไม่ใช่เครื่องทหาร ไม่ต้องกังวลเรื่องชักศึกเข้าบ้าน

วันที่ 9 เม.ย.67 นายปานปรีย์ พหิทรานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานความมั่นคงถึงสถานการณ์ในเมียนมาว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีชาวเมียนมาเข้ามาในไทยในจำนวนที่เยอะ แต่จะมีเดินทางเข้ามาบ้างประปรายจากที่เคยเดินทางเข้ามาอยู่แล้ว และที่เครื่องบินโดยสารจากเมียนมา 1 ลำ ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอดนั้น ปกติก็มีการขอมาจอดเป็นประจำ โดยเฉพาะเครื่องบินที่เป็นเครื่องบินพาณิชย์ไม่ใช่เครื่องบินทหาร เมื่อขออนุญาตมา ถ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้องทางกระทรวงการต่างประเทศก็ออกใบclearance เพื่อให้สายการบิน บินมาในประเทศไทยได้

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ครั้งนี้ก็เป็นการขอมาจากเอกอัครราชทูตของเมียนมาร์ ประจำประเทศไทยและขอความร่วมมือ เนื่องจากมีสถานการณ์ในเมียนมาและมีประชาชได้รับผลกระทบ อาจมีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือประเทศไทย ในเรื่องของมนุษยธรรมซึ่งเราก็ตอบรับในเรื่องของมนุษยธรรม โดยรอบแรกขอมา 3 ครั้งคาดว่าน่าจะมีประชาชนชาวเมียนมาข้ามชายแดนมาเยอะแต่สุดท้ายก็ปรากฏว่าไม่มี ก็เข้าใจ ว่าอาจจะมีการเจรจากันระหว่างกลุ่มที่ต่อสู้กันในพื้นที่ อาจจะมีการตกลงกันได้ ทำให้ไม่ต้องขนคนไป และคาดว่าอาจจะมีข้าราชการเข้ามาแต่สุดท้ายไม่ได้เข้ามา ซึ่งโดยปกติทางการทูตไม่ว่าจะเป็นประเทศใด เราไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่า ข้าราชการของเขา แต่ทั้งหมดนี้ ก็ผ่านชายแดนมาเรียบร้อย ซึ่งในการตรวจสอบที่ชายแดนเรียบร้อย และยืนยันได้ว่าไม่มีอาวุธ ไม่มีกำลังพล ไม่มีทหาร และเดิมที่จะเดินทางเข้ามาก็ขอยกเลิกไปไม่ได้เดินทางเข้ามา ดังนั้นเหลือแต่เอกสารทางราชการที่ส่งกลับไป

ส่วนที่ ฃมีข่าวว่าเครื่องบินที่เข้ามาขนคนเข้ามานั้นก็ไม่เห็นและตามที่แจ้งมาก็ไม่มีเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของมนุษยธรรม พอไม่มีชาวเมียนมามาก็เหลือเฉพาะสัมภาระ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับเอกสารซึ่งทั้งหมดผ่านด่านมาแล้วมีการตรวจเรียบร้อยก่อนมาแล้ว

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ก็มีการประชุมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เชิญฝ่ายความมั่นคงเข้ามา เพราะมีความเป็นห่วงว่าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นทางประเทศไทยจะเตรียมสถานการณ์รองรับได้อย่างไรบ้าง ซึ่งก็ได้รับรายงานว่าปัจจุบันนี้ มีการเตรียมแผนรองรับแล้ว น่าจะรับได้ประมาณ1 แสนคน เข้ามาในที่ปลอดภัยชั่วคราว ก็มีคำถามต่อไปว่า ถ้ามีจำนวนคนเข้ามามากกว่าแสนคนจะทำอย่างไร ผู้รับผิดชอบก็แจ้งว่าสามารถที่จะดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้กำลังติดต่อกับต่างประเทศด้วย ว่าหากเกิดความรุนแรงแล้วมีคนเข้ามาเป็นหลักแสนเราจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งประเทศไทยไม่อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการได้โดยลำพัง ก็ต้องเชิญชวนต่างประเทศเข้ามาร่วม

อีกเรื่องคือเรื่องการค้าชายแดน ซึ่งนายกมีความเป็นห่วง และก่อนหน้านี้การค้า บริเวณชายแดนโดยเฉพาะที่แม่สอด ก็ลดลงมาก ตอนนี้ข้าราชการกรมศุลกากร ตม.ฝั่งเมียนมาก็ยังทำงานเป็นปกติ แต่อาจจะ ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ การค้ายังเข้า-ออกได้ปกติ หากเข้า-ออกไม่ได้ก็จะไดเวอร์สไปพื้นที่ชายแดนอื่นต่อไป

ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า ทางการไทยอนุญาตให้เครื่องบินเมียนมา มาจอดจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านหรือไม่นั้น นายปานปรีย์ ยืนยันว่าไม่มี เพราะไม่ใช่เครื่องบินทหาร เป็นเครื่องบินพลเรือนของเมียนมา ซึ่งปกติก็บินเข้า-ออกประเทศไทยอยู่แล้ว ตนคิดว่าไม่มีประเด็นอะไรเลยเรื่องของการชักศึกเข้าบ้าน และถามทางกองทัพก็มีความพร้อม ในกรณีที่อาจจะมีการล่วงละเมิดน่านฟ้า ว่าจะดำเนินการอย่างไร

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะให้มีการเจรจานั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า การเจรจาต้องเจรจา ให้ครบทุกกลุ่ม ทั้งทางการเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งรัฐบาลเมียนมาคุมได้ พื้นที่หนึ่ง อีกกลุ่ม ก็คุมในพื้นที่ 1 ดังนั้นการเจรจาต้องเจรจาให้ได้ทุกกลุ่ม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ต้องทำ

เมื่อถามถึงจุดยืนของประเทศไทย ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายปานปรีย์ ยืนยันประเทศไทยมี ความเป็นกลางอย่างแน่นอน และเรามีความประสงค์ให้เกิดสันติสุขและเกิดความสงบเรียบร้อยในเมียนมา เพราะไทยได้รับผลกระทบมากและเราได้เริ่มทำในบางส่วนแล้ว แต่เมื่อมีการสู้รบกันมากขึ้น ก็จะต้องหาทางที่จะทำให้เกิดการเจรจา เพื่อให้การสู้รบยุติลง เพื่อให้เกิดการพูดคุยกันมากขึ้น

เมื่อถามว่า หากกลุ่มเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ ที่หลบหนีการสู้รบเข้ามาอยู่ฝั่งไทยแล้วมาอยู่รวมกันจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันหรอไม นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ ซึ่งผู้รับผิดชอบ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กองทัพ ทราบอยู่แล้วและจะเป็นผู้ที่รู้ว่าในพื้นที่ต่างๆเป็นชนกลุ่มไหน ชาติพันธุ์ไหน ดังนั้นการที่ไปเอาชาติพันธุ์ที่ไม่ถูกกันหรือคนที่เป็นของรัฐบาลมาอยู่ด้วยกัน อาจจะมีปัญหาได้ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเราแยกแยะได้และโดยปกติแล้วประชาชนชาวเมียนมาไม่ได้แตกแยกเท่าไหร่ จะเป็นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น และประชาชนชาวเมียนมาส่วนมาก ก็ข้ามไปข้ามมา ไม่รู้ว่ากลุ่มไหนเป็นกลุ่มไหน ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างไรก็ตามได้รับทราบเรื่องนี้แล้วและเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ

เมื่อถามว่า จะทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยกับสถานการณ์นี้ นายปานปรีย์ กล่าวว่า วันนี้ยังมีความสงบอยู่ จากที่ได้รับรายงาน มีการค้าขายกันปกติประมาณการค้าอาจจะลดน้อยลงและประชาชนอาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น แต่เป็นเรื่องภายในของเมียนมา ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเกิดอะไรที่รุนแรงในพื้นที่ ของเมียวดี เนื่องจากเมียวดีเป็นพื้นที่ของเศรษฐกิจโดยตรง และคิดว่าไม่มีใครมีความประสงค์ที่จะทำให้เกิดความรุนแรง ทางกองทัพก็เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนในกรณีที่ ป็นเรื่องชายแดน ทางกองทัพก็จะต้องดูแล ตอนนี้ก็เพิ่มกำลังไปแล้วและดูแลอย่างใกล้ชิดเข้มงวด

เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนบทบาทจากผู้ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นผู้ควบคุม เหมือนกรณีของจีนหรือไม่นั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า เราไม่ได้เข้าไปควบคุมใครและเราไม่สามารถที่จะไปควบคุมรัฐบาลอื่น แต่เราทำหน้าที่ประสานงาน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาในเมียนมา และไม่ใช่เฉพาะ ในเรื่องการดำเนินข้อริเริ่มด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเดียว แต่หลังจากตรงนี้เราก็มีแผนที่จะดำเนินการในส่วนนี้อยู่แล้ว

ส่วนที่มีรายงานว่ารัฐบาลตัดสินใจอนุญาตให้เครื่องบินลงจอด โดยไม่ได้ประสานงานกับกองทัพนั้น นายปานปรีย์ กล่าวยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการและเป็นไปตามขั้นตอน หลังจากที่มีเหตุก่รณ์ ก็มีการประสานงานเข้าประชุม สมช. เพื่อหารือว่าเกิดอะไรขึ้น และในนายกรัฐมนตรีก็รับทราบดี การจะให้ เครื่องบินเมียนมาบินเข้ามาหรือไม่ เข้ารัฐบาลรับทราบดีและตัดสินใจสอดคล้องกัน ผ่านสมช.

ทั้งนี้ จำเป็นต้องให้จีนมาร่วมหรือไม่ เป็นอีกสเตปหนึ่งที่เป็นเรื่องของประเทศที่มีชายแดนติดกับเมียนมา ทั้งจีน อินเดีย บังคลาเทศและลาว จะมาร่วมกันเพราะทั้ง 3-4 ประเทศนี้ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับประเทศไทย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img