วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกNEWSดาหน้าตำหนิ‘ม็อบ3นิ้ว’ดูหมิ่น-ขู่ศาล ซัด‘ยิ่งกว่าล่าแม่มด’ติดรูปผู้พิพากษา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ดาหน้าตำหนิ‘ม็อบ3นิ้ว’ดูหมิ่น-ขู่ศาล ซัด‘ยิ่งกว่าล่าแม่มด’ติดรูปผู้พิพากษา

ดาหน้าตำหนิ “ม็อบ 3 นิ้ว” ชุมนุม 2 พ.ค. ซัดเหิมเกริมหนักเข้าข่าย “ดูหมิ่น-ข่มขู่ศาล-ข่มขู่ผู้พิพากษา” ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง “สิระ” ถาม “ผบ.ตร.” ทำไมปล่อยศาลโดดเดี่ยว จี้เปลี่ยนตัว “น.1” ถ้าคุมม็อบไม่ได้ ด้าน “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ชี้ยิ่งกว่าล่าแม่มด ถึงขั้นติดรูปผู้พิพากษา ละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม REDEM เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ที่รวมตัวเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำราษฎร และสมาชิกแนวร่วมที่ถูกคุมขังว่า การรวมตัวในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อกดดันและแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของนายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และต้องการโจมตี ที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวบรรดาแกนนำม็อบ ซึ่งการกระทำของผู้ชุมนุมคือ การละเมิดอำนาจของฝ่ายตุลาการอย่างชัดเจน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการบุกเข้าไปภายในบริเวณศาลอาญา เพื่อกดดันให้มีการปล่อยตัวแกนนำถูกคุมขัง พฤติกรรมของผู้ชุมนุมและแกนนำ ดูหมิ่น ข่มขู่ศาล ข่มขู่ผู้พิพากษา

“ตอนที่ไปชุมนุมหน้าที่ทำการศาลยุติธรรม มีการเรียกร้องให้ “ปล่อยตัวเพื่อนเรา” กดดันให้ผู้พิพากษาลงมารับหนังสือข้อเรียกร้อง ปรากฎภาพ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนอยู่ในพื้นที่ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แถมยังมีการใช้วาจาข่มขู่ศาลว่า จะเป็นฟางเส้นสุดท้าย และต้องได้รับการประกันตัว ผมสงสัยว่า ตกลงบ้านเมืองนี้จะปกครองกันด้วยความรู้สึก ไม่ต้องยึดหลักกฏหมาย ไม่ต้องเคารพกฎของบ้านเมือง พยายามใช้กฎหมู่ให้อยู่เหนือกฎหมาย ถ้าการทำหน้าที่ของศาลถูกละเมิดและแทรกแซงเช่นนี้ ประเทศจะอยู่กันอย่างไร ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมจะอยู่ตรงไหน การกระทำของพวกป่วนเมืองตอนนี้อย่าอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิ แต่มันคือพฤติกรรมก้าวร้าวไม่เคารพกฎหมาย”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ต้องรักษาความปลอดภัยให้ศาลและเจ้าหน้าที่ของศาลทุกคนมากกว่านี้ ที่ผ่านมาตำรวจปล่อยให้ศาลเผชิญกับความไม่ปลอดภัยในชีวิตและครอบครัวอยู่ฝ่ายเดียว และจะมีตำรวจไว้ทำไม ถ้าตำรวจไม่สามารถให้ความคุ้มครองให้เกิดความปลอดภัยได้ ปล่อยให้พวกขยะสังคมท้าทายกฎหมายอยู่เช่นนี้ “ผบ.ตร.” ต้องเข้ามาดูแลการทำหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (น.1) ถ้าตำรวจไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ “น.1” ยังมีความเหมาะสมที่จะปฎิบัติหน้าที่ต่อไปหรือไม่ หรือถึงเวลาแล้วที่ต้องหาผู้ที่เหมาะสมกว่ามาทำหน้าที่แทน เพราะคงจะรอไปจนถึงวันที่คนพวกนี้ลุกขึ้นมาเผาศาลไม่ได้

“การพิจารณาพิพากษาหรือออกคำสั่งใด ศาลต้องพิจารณาโดยปราศจากอคติ ปราศจากความกดดันใดๆ มิใช่พิจารณาพิพากษาโดยความกลัว ความรัก ความเกลียดชังใด ๆ การที่ผู้ชุมนุมกระทำเช่นนี้เป็นการกดดันศาลให้ขาดความยุติธรรมหรือไม่ ละเมิดอำนาจศาลแล้วหรือยัง”นายสิระกล่าวและว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” รวมถึงมารดา อย่าเอาเรื่องการอดข้าวมาเป็นข้ออ้าง ทั้งแม่-ทั้งลูก ไม่มีใครบังคับให้อดอาหาร จะกินหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ปากของเจ้าตัว ไม่ใช่เอาเรื่องไม่กินข้าวมากดดันในการขอประกันตัว เพราะการจะได้ประกันตัวหรือไม่ ศาลมีดุลยพินิจที่ยึดกฎหมายในการตัดสิน ถ้าสุดท้ายจะยอมอดข้าวจนตาย ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล หากคิดว่าอดข้าวแล้วจะได้ออกจากคุก ผู้ต้องขังทุกคนไม่ต้องลุกขึ้นมาประกาศอดข้าวทั้งเรือนจำหรือ

นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่ปรากฎภาพของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ในการชุมนุมเมื่อวานนี้ว่า ศาลให้ความเมตตา อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยที่นายสมยศได้กล่าวว่า หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมอีก โดยยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวทุกประการ จึงมีคำถามว่า การกระทำของนายสมยศที่เกิดขึ้น ผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ และการกระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ ไร้จิตสำนึก สมควรที่ต้องถอนประกันแล้วเข้าคุก คนแบบนี้จะปล่อยให้ลอยนวลอยู่ปนกับคนปกติไม่ได้ เพราะจะก่อความวุ่นวายในสังคมไม่รู้จักจบจักสิ้น

ด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ยิ่งกว่าล่าแม่มด” มีเนื้อหาว่า…”ผู้ชุมนุมที่หน้าศาลกระทำการที่ยิ่งกว่าละเมิดอำนาจศาล นอกจากการท้าทายศาลแล้ว การเอารูปผู้พิพากษาที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหามาติดเต็มไปหมด จะให้เรียกว่าอะไร นี่มันคือการล่าแม่มด อย่างที่แก๊งสามนิ้วนิยมกล่าวหาคนอื่น นอกจากเอาชื่อ เอารูป ที่อยู่ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อแล้ว ชื่อลูกเต้าของผู้พิพากษาก็ถูกเอามาเปิดเผยด้วย นี่คือการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของมนุษย์ จะรอดูกันเมื่อศาลลงโทษ จะออกฤทธิ์เดชกันยังไง”

ขณะที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี แสดงความเห็นว่า…เหตุการณ์ที่หน้าศาล เราคงได้เห็นพฤติกรรม ถ่อย เถื่อน กักขฬะ หยาบคาย ของระบอบสามกีบ กลุ่มบุคคลที่จะมาปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แก้รัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงประเทศไทยของเรา ช่วงนี้เป้าหมายของเขาคือศาล ต้องการดึงศาลลงมาเป็นคู่ขัดแย้ง และสร้างกระแสไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล เพื่อสร้างความปั่นป่วนของระบบกฎหมาย นำไปสู่รัฐล้มเหลว นับวัน คนพวกนี้ กำลังทำตัวเป็นอันธพาล นึกอยากจะทำอะไรก็ไม่แคร์ เป็นลักษณะอันธพาลป่วนเมือง รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกมากกว่านี้นะครับ อย่าช้าเกินไป ประชาชนจะเบื่อ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img