วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlight"ไอติม-ปิยบุตร"แจงซัดร่างไม่สุดโต่ง วัดใจรัฐสภาล้มฉบับปชช.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ไอติม-ปิยบุตร”แจงซัดร่างไม่สุดโต่ง วัดใจรัฐสภาล้มฉบับปชช.

“ไอติม” แจงหลักการ “ล้มระบบประยุทธ์” วัดใจรัฐสภาคว่ำร่างรธน.ปชช. ย้ำชัดเนื้อหาสร้างระบบสมดุล-เป็นธรรมทางการเมืองไม่สุดโต่ง ซัด “ประยุทธ์” เป็นเชื้อไวรัสฉุดไทยป่วยร้ายแรง 3โรค ด้าน “ปิยบุตร”ลั่นเหตุตัดอำนาจศาลห้ามยุ่งแก้กติกาปท. โล๊ะทิ้ง ส.ว.เหลือสภาเดียว ล้มคสช.สกัดรปห.ติดดาบโทษสูง

วันที่ 16 พ.ย. 64 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่…) พ.ศ. …ตามที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 135,247 คน เป็นผู้เสนอ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงผลการประชุมร่วมวิป 3ฝ่าย เพื่อกำหนดกรอบการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีเวลาอภิปราย 18 ชั่วโมง โดยให้ผู้เสนอร่างอภิปราย 3ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และส.ว.ฝ่ายละ 5ชั่วโมง จะเริ่มอภิปรายเวลา 09.00 วันที่ 16 พ.ย. ถึงเวลา 03.00น. วันที่ 17 พ.ย. และลงมติวาระรับหลักการโดยการขานชื่อรายบุคคลในเวลา 10.00น.วันที่ 17 พ.ย.

จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับภาคประชาชน โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญภาคประชาชน ชี้แจงหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนว่า ประเทศไทยเป็นผู้ป่วยร้ายแรง 3โรค คือ 1.โรคเศรษฐกิจอ่อนแอ 2.โรคเหลื่อมล้ำเรื้อรัง 3.โรคประชาธิปไตยหลอกลวง เป็นผลจากไวรัสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่สิ่งที่อันตรายกว่าไวรัสตัวนี้คือ ระบอบประยุทธ์ ที่มีรัฐธรรมนูญปี2560 ปกป้องอยู่ เพื่อสืบทอดอำนาจให้พล.อ.ประยุทธ์ มีกลไกต่างๆที่ควบคุมได้เบ็ดเสร็จจากส.ว. องค์กรอิสระ ช่วยผูกขาดอำนาจ ไม่ว่าจะบริหารประเทศอย่างไร

สิ่งที่เราต้องการคือการทำให้ประเทศแข็งแรงผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อฆ่าไวรัสพล.อ.ประยุทธ์ โดยต้องมีรัฐธรรมนูญภาคประชาชน เป็นการฉีดวัคซีนเข็ม 1ให้ประเทศไทย มีข้อเสนอ 4ข้อคือ 1.ยกเลิกส.ว.ให้เหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว เพราะส.ว.ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย มีอำนาจล้นฟ้า แต่ไม่มีที่มายึดโยงจากประชาชน รัฐสภาดีที่สุดคือ รัฐสภาที่ไม่มีวุฒิสภา มีข้อดีคือช่วยประหยัดงบประมาณประเทศ เงินเดือนส.ว.บวกที่ปรึกษา ผู้ติดตาม อยู่ที่ 800ล้านต่อปี รวมค่าน้ำ ค่าฟ้า ค่าประชุม มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ไม่รู้คุ้มค่าหรือไม่ และช่วยให้มีกระบวนการนิติบัญญัติรวดเร็ว กระชับ

ส่วนข้อกังวลการยกเลิกส.ว.นั้น จะมีกลไกอื่นมาทดแทนได้และอาจมีประสิทธิภาพมากกว่า หากกังวลควรมีส.ว.อยู่เพื่อถ่วงดุลอำนาจรัฐบาลนั้น ขอให้เพิ่มอำนาจส.ส.ฝ่ายค้านในการตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลแทน การให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลการทำงานของรัฐได้ละเอียดขึ้น การออกกฎหมายคุ้มครองประชาชนที่เปิดโปงการทุจริต ข้อทักท้วงการทุจริตต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น กรณีเรือดำน้ำ เกิดจากการทักท้วงของประชาชน ไม่ใช่การทักท้วงจากส.ว.

นายพริษฐ์ กล่าวว่า 2.การเสนอยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีและแผนการปฏิรูปประเทศ เพราะตัวแทนคณะกรรม การยุทธศาสตร์ชาติไม่มีตัวแทนภาคประชาชน การกำหนดแนวทางบริหารประเทศล่วงหน้า 20ปี ในสภาวะที่โลกมีความผันผวนเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่น่ากังวลคือ การไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี จะมีความผิด กำหนดให้ลงโทษรัฐบาลที่ไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติได้ เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจรัฐบาลประยุทธ์ และเล่นงานคู่แข่งทางการเมือง ข้อเสนอเหล่านี้ไม่สุดโต่ง เป็นเรื่องปกติในประเทศประชาธิปไตย

ส่วนที่ระบุร่างแก้ไขฉบับประชาชน มีความขัดแย้งกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ขัดแย้งกับร่างรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบบัตรเลือกตั้ง 2ใบนั้น เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ทำขึ้นก่อนที่ร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาฯให้ความเห็นชอบจะแก้ไขเสร็จ เรายินดีแก้ไขร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนในชั้นกมธ. ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบไป ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นระบบที่ไว้วางใจประชาชน เลือกตัวแทนเข้ามาผ่านกลไกรัฐสภา ไม่ให้ทหารเข้ามาแก้ปัญหา ขอให้หยุดยกเสียง 16 ล้านเสียง อ้างเป็นส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญปี2560 ขอให้รับร่างแก้ไขฉบับนี้ แล้วไปวัดที่การทำประชามติ

ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชน ชี้แจงว่า 3.การปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาแม้จะอมพระมาพูดว่า ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระมีความเป็นกลาง พูดให้ตายประชาชนก็ไม่เชื่อ เพราะมีที่มาจากคสช. องค์กรเหล่านี้มีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนชี้ชะตานักการเมืองได้ ฝ่ายการเมืองอยากเข้ามาช่วงชิงองค์กรเหล่านี้ที่ให้คุณให้โทษได้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปรับโครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญให้มีที่มาโดยให้ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอมาฝ่ายละ 6คน รวมเป็น 18 คน ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาคัดเลือกเหลือ 9 คน ใช้มติ 2ใน3 ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีความถ่วงดุล เพราะมาจากตัวแทนรัฐบาล ฝ่ายค้าน ศาลฎีกาฝ่ายละ 3คน

นอกจากนี้ให้แก้ไขเรื่องอำนาจศาลรัฐธรรมนูญให้เหลือเฉพาะเรื่องร่างพ.ร.บ.ใดขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ การขัดแย้งระหว่างองค์กรเท่านั้น และให้ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงให้มีระบบถอดถอนศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระได้ แต่ไม่ใช่ให้ถอดถอนกันง่ายๆ มีกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ต้องกังวลว่า ส.ส.จะครอบงำศาลรัฐธรรมนูญ แต่ออกแบบให้มีการถ่วงดุล


นายปิยบุตรกล่าวว่า 4.การล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร โดยยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา279 ที่รับรองคำสั่งและการกระทำของคสช.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่สร้างหลุมดำและรอยด่างพร้อยให้รัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาทำรัฐประหารกันจนเป็นประเพณี คิดว่าถ้ายึดอำนาจสำเร็จจะไม่มีวันถูกลงโทษ ดำเนินคดี จึงเป็นที่มาของการทำให้การรัฐประหารเป็นโมฆะ ไม่มีการนิรโทษกรรม จะต้องถูกดำเนินคดี ป้องกันไม่ให้มีการรัฐประหารอีก ถ้ามีคนทำรัฐประหารถูกดำเนินคดี จะไม่มีใครคิดทำรัฐประหารอีก ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นการออกแบบสร้างกติกาเป็นกลาง ไม่ใช่เขียนกติกาเฉพาะคนชนะ กำราบฝ่ายแพ้ให้ราบคาบ ไม่เห็นเหตุผลที่สมาชิกรัฐสภาจะไม่เห็นชอบร่างแก้ไขฉบับประชาชน

หากสมาชิกให้ความเห็นชอบวาระ 1 ความเห็นที่แตกต่างกันยังมีโอกาสปรับปรุงในวาระ 2 และถ้าผ่านวาระ 3ไปได้ ก็ยังมีหนทางร้องศาลรัฐธรรมนูญและการทำประชาชน ขั้นตอนการแก้รัฐธรรมนูญยังอีกยาวนั้น แต่อย่างน้อยให้ลงมติรับวาระหลักการ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปิดประตูรับรับฟังร่างภาคประชาชน เพื่อให้ได้ศาลรัฐธรรมนูญที่รับรองรัฐประหาร หรือก่อวิกฤติการเมือง มีองค์กรอิสระที่เป็นกลาง รวมถึงคนทำรัฐประหารต้องถูกดำเนินคดี

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img