เพื่อไทยแห่ขอบคุณประชาชน ‘สุรชาติ’ ลั่นพร้อมทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ‘หมอชลน่าน’ ได้ทีไล่ ‘บิ๊กตู่’ ยุบสภา ทางลงที่สง่างาม
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.65 นายสุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส. เขต9 กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและส.ส.ของพรรคเพื่อไทยขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนบริเวณหน้าวัดหลักสี่ โดยนายสุรชาติ ระบุว่า ขอบคุณประชาชนทุกคนจากใจ สิ่งที่ทุกคนให้มามากกว่าชัยชนะ ถือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ชัยชนะครั้งนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบ จะทำงานรับใช้ประชาชนทุกคนอย่างตั้งใจที่สุด จะทุ่มเทกับทุกวันในชีวิตที่ทำมาตลอด 17 ปี ส่วนการทำงานในสภานั้นพร้อมจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ปราศจากอคติ ไม่คิดล้มล้างหรือทำลายใคร และจะทำหน้าที่เป็น ส.ส.ของทุกคน
ขณะที่ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แม้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่มาก แต่ก็ตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจนว่า ประชาชนต้องการคนทำจริง ที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นอันดับสอง จะกลายเป็นคู่แข่งพรรคเพื่อไทยในอนาคตหรือไม่นั้น ในทางการเมืองทุกพรรคการเมืองถือเป็นคู่แข่ง แต่ไม่ใช่ศัตรูกัน ถือว่าทุกพรรคมีส่วนร่วมสำคัญ ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีโดยเฉพาะระบบประชาธิปไตย หากทุกพรรคช่วยกันทำเช่นนี้ จะทำให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ได้มองว่า การมีพรรคใดพรรคหนึ่งขึ้นมาจะเป็นผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งเราจะต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน หากพรรคการเมืองอื่นทำดีเราก็ดีใจด้วย เพราะถือเป็นทางออกทางรอดของประชาชน
ส่วนกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความยินดี แสดงความคิดเห็นว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตร หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการนั้น ไม่ขอแสดงความเห็น ถือเป็นทรรศนะ ทุกคนเป็นเพื่อนเป็นมิตรกันได้ ในทางการเมืองอยู่แล้ว อุดมคติและแนวทางการทำงาน หากแนวทางที่เดินเมื่อรู้ว่าทำแล้วไปไม่ได้ ไม่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ก็สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะร่วมงานกัน และต้องขอบคุณคนที่ยังมองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นที่พึ่งที่หวัง
เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าจะเป็นสัญญาณ ที่ ร.อ.ธรรมนัส อาจจะกลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงเป็นเพียงมุมมองของคนที่ชอบการเมือง ในมุมพรรคเพื่อไทยยึดมั่น อุดมการณ์ของพรรคในการต่อต้านเผด็จการ และไม่สนับสนุนเผด็จการทุกรูปแบบ หากใครจะมาร่วมต้องประกาศให้ชัดว่าไม่เอาเผด็จการ
“การเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นอย่างดี นอกจากจะไม่นำประชาชนออกจากวิกฤตแล้วยังเป็นการซ้ำเติมวิกฤต ทางออกที่ที่สุดดีคือคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยหากจะพิจารณาตนเอง ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา จะไปกราบขอบคุณเป็นคนแรก เพราะถือเป็นการทำเพื่อชาติบ้านเมือง หรือประกาศเลยว่าจะไม่อยู่เกินวาระ 8 ปี ขออย่าเห็นแก่ตัว เห็นแก่อำนาจหรือประโยชน์พวกพ้อง ซึ่งส่วนตัวมองว่าวิธีแบบนี้จะเป็นทางลงที่สง่างามที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอให้พิจารณาว่าทำไมพรรคไม่ประสบผลสำเร็จและผลการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นการลงโทษจากประชาชน ขอให้คิดถึงประชาชนเป็นหลัก ทบทวนตนเอง ก่อนที่จะเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียงต่ำกว่า 50 เสียง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ.
